2555-11-04

Cheonggyecheon : คลองสายนี้หัวใจไม่ลืม

       
     คลองชอง เก ชอน ซึ่งเป็นคลองสายประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลีก็ว่าได้ นั่นเพราะคลองแห่งนี้ได้ไหลผ่านย่านใจกลางกรุงโซล ซึ่งถือเป็นคลองที่มีความสำคัญไม่แพ้แม่น้ำฮัน แม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนประเทศนี้ ซึ่งในอดีตทุกชีวิตที่อยู่ริมสองฝั่งคลองได้ใช้ ชอง เก ชอน มาเนิ่นนาน ไม่ว่าจะเป็นทั้งอุปโภคบริโภค แต่หลังจากที่เกาหลีได้ผ่านยุคสงครามภายในประเทศ และรอดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ได้เร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมองข้ามในเรื่องสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมือง ชั่วระยะเวลาเพียง 50 ปีเท่านั้นเกาหลีใต้ ได้ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังจากบอบช้ำจากสงครามภายใน ประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทรัพยากรธรรมชาติทั้งหลายถูกขุดขึ้นมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็ก จนทำให้เกาหลีใต้สามารถผลิตรถยนต์ส่งออกได้เป็นอันดับ 5 ของโลก รวมถึงสินค้าไอทีและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ด้วยเหตุนี้เองทำให้รัฐบาลเกาหลีต้องก่อสร้างถนน ทางยกระดับ รวมถึงทางด่วนหลายสาย เพื่อรองรับการพัฒนา การขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และชุมชนเมืองในกรุงโซล โดยไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม จนเป็นต้นเหตุให้มีการก่อสร้างทางด่วน ทับคลองชอง เก ชอน ในปี 1957-1977 จนทำให้คลองสายนี้เริ่มตายไปจากชุมชนสองฝั่งคลองย่านใจกลางกรุงโซล และเมื่อทางด่วนผุดขึ้นกลางคลองการไหลของน้ำไม่สะดวก เกิดการตื่นเขิน ที่สำคัญเมื่อการเดินทางสะดวกมากขึ้นทำให้เกิดการขยายตัวของชุมชน มีร้านค้าขายของมากมายบริเวณใต้ทางด่วน จนทำให้น้ำในคลอง ชอง เก ชอน เน่าเหม็นและตายไปในที่สุด จนทำให้คลองสายนี้ไม่ต่างไปจากคลองแสนแสบบ้านเรา กลายเป็นที่ระบายสิ่งปฏิกูลและถังขยะขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองร่วม 25 ปีเศษที่กรุงโซลละเลยเรื่องคุณภาพสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมือง จนกระทั่งเกิดมลพิษ น้ำเน่าเสีย เกิดชุมชนแออัดตามใต้ทางด่วน และก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมา จนทำให้ประชาชนบางส่วนที่สนใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวให้มีการคืนชีวิตให้กับคลองชอง เก ชอน อีกครั้งกระทั่งปี 2003 ในช่วงที่ ลี เมียง บัก เป็นผู้ว่าการกรุงโซล ได้มีแนวคิดคืนคลองให้กับชุมชนเมือง จึงได้ตัดใจเสนอนโยบายทุบทางด่วนทิ้ง พร้อมกับ โครงการกู้ชีวิตคลอง ชอง เก ชอน ให้กับคนในกรุงโซล

     แต่โครงการนี้ใช่ว่าจะสำเร็จง่ายๆ เพราะช่วงแรกได้รับการต่อต้านจากบรรดาพ่อค้าแม่ขายจากย่านใต้ทางด่วนริมคลอง จนเกิดแรงประทะกับหลายต่อหลายครั้งจากฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายโครงการนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยเริ่มลงมือทุบทางด่วนในปี 2003 และคืนคลองชอง เก ชอน ได้สำเร็จในปี 2005โดยใช้งบประมาณในการทุบทางด่วนรวมถึงการสร้างคลอง ชอง เก ชอน ให้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งกว่า 3.8 แสนล้านวอน หรือ ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งมีการฟื้นฟูธรรมชาติริมสองฝั่งคลองด้วย ตลอดความยาวกว่า 5.84 กิโลเมตร ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองตลอดแนวมีการสร้างน้ำพุเป็นระยะๆ รวมถึงมีการสร้างนำตกเพื่อเป็นแนวกันน้ำและชะลอน้ำหน้าฝน มีการสร้างสะพานกว่า 22 แห่งเพื่อเป็นจุดชมวิวริมสองฝั่งคลอง มีการก่อสร้างทางเดิน เรียบคลอง พร้อมทั้งจุดพักผ่อนด้วย ปัจจุบันคลองชอง เก ชอน ได้กลับฟื้นขึ้นมาได้กว่า 2 ปีแล้ว ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายในกรุงโซล เริ่มกลับคืนมาใหม่อีกครั้ง ด้วยการสูบน้ำมาจากแม่มาจากแม่น้ำฮัน เพื่อหล่อเลี้ยงคลองแห่งนี้ จากน้ำดำส่งกลิ่นเหม็น กลายเป็นสายน้ำใสไหลเย็น มีปลานานาชนิดแหวกว่าย และแทบไม่น่าเชื่อว่าคลองในใจกลางเมืองขนาดนี้จะมีฝูงนกเป็ดน้ำบินมาหาอาหาร ว่ายน้ำเล่นให้คนชมจนเพลินตา
   
     วันนี้ ชอง เก ชอน กลายเป็นสวนสาธารณะแห่งใหญ่ที่สุดของคนในกรุงโซล พอตกเย็นจะมีประชาชนจำนวนมากมาวิ่งออกกำลัง เดินเล่น จูงลูกหลานมาพักผ่อนหย่อนใจ หรือเป็นจุดนัดพบ และจะมีประชาชนเป็นจำนวนมากมาเดินเล่นตามริมคลองในช่วงเทศกาลสำคัญๆ จนทำให้หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย เดินทางมาศึกษาดูงานการจัดระบบสิ่งแวดล้อมในชุมชนของกรุงโซล ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เกาหลีใต้ ตั้งเป้าจะพัฒนาเมืองหลวงให้กลายเป็นมหานครที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกเมืองน่าอยู่ให้ได้ เพราะปัจจุบันกรุงโซลมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 10 ล้านคน แต่มีพื้นที่เพียง 605 ตารางกิโลเมตรเท่านั้นซึ่งสภาพทั่วไปเป็นเกาะและภูเขา นับว่ามีพื้นที่เล็กกว่ากรุงเทพฯเป็นอย่างมาก ในขณะที่ประชากรอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน ด้วยการเจริญเติบโตของชุมชนเมือง กรุงโซลมีแนวคิดที่จะขายเมืองออกไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำฮัน ที่อยู่ระหว่างกรุงโซล กับเกาะยองจอง โดยเป็นพื้นที่ทะเลโคลน ติดกับทะเลเหลืองของคาบสมุทรเกาหลี อยู่ในระหว่างการถมทะเลโคลน เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย สถานศึกษา และ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ โดยคำนึงถึงความสุขของประชาชนเป็นหลัก จึงทำให้หันมาขบคิดและตั้งคำถามว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้(ประเทศไทย) มีเรื่องเหล่านี้อยู่ในหัวสมองบ้างหรือไม่? ในด้านที่จะดำเนินการให้มีพื้นที่ของเมืองสีเขียวทั้งในกรุงเทพฯเองและต่างจังหวัด ไปพร้อมกับการพัฒนาของชุมชนเมืองที่นับวันจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่หันมามองเรื่องของสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของประชาชน



"เมื่อคิดเองไม่ได้..ก็จงเป็นนักลอกเลียนแบบที่ดี"

Cheonggyecheon: คลองสายนี้หัวใจไม่ลืม --- เมื่อเกาหลีทุบทางด่วนทิ้ง คืนคลองสวยและธรรมชาติสู่เมืองใหญ่

Read More
: http://www.portfolios.net/profiles/blogs/cheonggyecheon#ixzz2H0vtpxE5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

2leep.com