แ ด่ . . . ใ บ ไ ม้ ร่ ว ง โ ร ย
ใบไม้ ... ต่างก็มีหลากสีสัน
พร้อมรอวันเติบโตและโรยรา
แต่ทุกวัน ... เมื่อใบไม้กระทบแสงแดด
ก็จะเริ่มเกิดเงาและเห็นสีที่แตกต่างไปจากเดิม
เพียงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่นานเท่านั้น
..
ชีวิตคนเราทุกวันนี้ ...
ก็ไม่ต่างอะไรจากสีของใบไม้แต่ละใบ
ที่ย่อมแปรผันไปตามกาลเวลา
คนเราหากมีความคิดที่ว่าจะทำ
ก็จงทำซะ ทำในสิ่งที่ชอบ
อย่ามัวแต่นั่งรอเวลา
และคิดแค่ว่า จะทำอย่างโน้น อย่างนี้
แต่ ... ไม่ได้ทำสักที
เมื่อไม่ได้ลงมือทำ ... ความคิดนั้นมันก็อาจจะถูกแทนที่ความคิดอันใหม่
และก็จะมีเรื่องที่จะทำอื่นๆ อีกมากมายเข้ามา
ความคิดอันเก่าก็ไม่ได้ทำสักที ...
และสุดท้าย ความคิดนั้นก็ถูกลืมไป
ดังเช่นใบใม้ ที่เปลี่ยนสี และร่วงหล่นจากต้น
และมีใบไม้ใบใหม่ขึ้นมา
หากคิดว่าอยากทำอะไร ก็จงวางแผนรีบทำ
ก่อนที่ทุกอย่าง อาจจะสาย และไม่มีโอกาสได้ทำ
ใบไม้ร่วงล่วงเลยไม่เคยกลับ
ปลิดปลิวลับลาไปให้ใฝ่หา
โบกโบยพัดพลิ้วไหวไปกับตา
ลมโศกมาพัดพาใจให้คะนึง
…
ก่อนชูช่อรอดอกหวังออกผล
เฝ้ารอจนเหนื่อยใจกว่าไปถึง
ภาวนาที่ซ้ำซากฝากตราตรึง
เสมือนหนึ่งความพ่ายแพ้แก่เวลา
…
เหนื่อยล้ากายเหนื่อยใจให้ต่อสู้
เหนื่อยกับการยืนอยู่แสวงหา
ความงดงามหรืออย่างไรที่ได้มา
หรือเป็นเพียงคราบน้ำตาเวลากาล
…
ใบไม้งามยืนไม่ไหวในวันนี้
จากใบที่แข็งแกร่งแรงอาจหาญ
จากสดใสสวยงามความชื่นบาน
กลับกร่ำกร้านเหี่ยวเฉาเพียงเงาใบ
กลับกร่ำกร้านเหี่ยวเฉาเพียงเงาใบ..
ใบไม้แห้งร่วงโรยลงบนพื้น
มิอาจยืนสวนกระแสอันไหลเชี่ยว
จากใบอ่อนสีเขียวไหวปราดเปรียว
ร่วงหล่นเดี่ยวเดียวดายไร้เพื่อนใจ
..
เคยหลอกล้อเย้าเล่นกับผีเสื้อ
เคยเอื้อเฟื้อให้มดน้อยคอยไต่เร้น
ถึงวันหนึ่งจำจากด้วยจำเป็น
มิอาจเห็นใบไม้เดิมอันงดงาม
..
..
เรื่องเล่าจากใบไม้ - บทใบไม้ร่วงโรย
พันดาว
ฉันคือ ต้นไม้ใหญ่ที่ยืนนานผ่านกาลเวลา...
นานพอที่จะเห็นเรื่องราวของผู้คน
ความฝัน ความเหงา ความทุกข์ ความสุข จินตนาการ ...
...ก่อนที่ฉันจะเริ่มเล่าเรื่องราว อยากให้เธอจำไว้ว่า
ฉันเป็นเพียงนักเล่า สิ่งที่ฉันพูดคือ เรื่องเล่า
เธอจะเชื่อหรือไม่ก็ได้..นั่งลงให้สบาย...
- ต่ อ ไ ป นี้ คื อ เ รื่ อ ง เ ล่ า จ า ก ใ บ ไ ม้ บ ท ใ บ ไ ม้ ร่ว ง โ ร ย -
..
*-+-*-+-*-+-*-+-*-+-*-+-*-+-*-+-*-+-*-+-*-+-*
ฤดูใบไม้ร่วง… กับการพัดมาของสายลมเหงา
หนึ่งใบไม้ ใกล้เวลาโรยตัวอย่างแผ่วเบา ดั่งดวงดาวที่อ่อนล้า
ความรักบนเส้นทางหัวใจสลาย ดั่งใบไม้ที่มาสุดเส้นทางกาลเวลา
ดั่งดวงดาวชรา ถึงเวลากล่าวอำลากับฟากฟ้าไกล
เมื่อปลายฝันมาเคาะประตูบ้าน…
ปิดฉากเรื่องราวของวันวาน ที่บอกเล่าผ่านดวงตาฉัน
สัมผัสสุดท้าย เธอกล่าวคำร่ำลา – แล้วเราจะได้เจอกัน –
ร่วงหล่นอย่างเงียบงัน… อี ก ห นึ่ ง ฝั น ที่ เ ดิ น ม า ถึ ง วั น ฝั น ร่ ว ง โ ร ย
ใบไม้ใบหนึ่งหลุดจากขั้วร่อนถลาตามแรงลมสู่ผืนดิน
ใบไม้แห้งแห้งเหล่าชนไม่นิยมชม
ใบไม้ผลัดใบปลิวลอยลมปลิดขั้วจากต้นไม้ใหญ่
พลัดพรากจากกิ่งสาขา เพียงเดียวดาย
ท่ามกลางผู้คนขวักไขว่ ค้นหา เดินทาง มุ่งหน้าใฝ่ฝัน
ใบไม้แห้งละลิ่วลอยตกสู่จุดหมายปลายทาง คือ ผืนปฐพี
ห้วงขณะ ณ เวลานั้น ความจริงเกิดขึ้นในความคิดเบื้องลึก
ใบไม้พลิ้วไหวส่ายไปตามกระแสลม หล่นร่วงลง ณ พื้นทาง
อนึ่ง ความเป็นไปของสรรพสิ่ง เรียบง่าย งดงาม
ซ่อนเร้นความหมายระหว่างสรรพชีวิต ล้วนกลับสู่วิถีธรรมชาติ
ไฉนมนุษย์เราจะมิเป็นเช่นเดียวกัน ...
ใบไม้ชูใบปลิวไสวเหนือยอดต้น
เปลี่ยนคืน ผ่านวัน ล่วงเลยพ้นฤดูกาล
กลับกลายเป็นใบไม้แห้งเหี่ยวค่อย ๆ ทิ้งตัวลงสู่พื้นต่ำ
มนุษย์ก็เช่นเดียวกัน ชีวิตแต่ละคนต้องถึงคราวล่วงลับ . . . จากไป
เทียบได้กับใบไม้ที่ร่วงโรย . . . เพื่อรอใบใหม่
ผลิบานแทนที่
********************************************************