แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จัดอันดับ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จัดอันดับ แสดงบทความทั้งหมด

2554-07-31

ความสำเร็จไม่ขึ้นตรงกับวิธีการ



การเป็นทุกข์กับสิ่งที่คุณไม่มี
เป็นการทำลายสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว


จากหนังสือ – เติมกำลังใจให้พลังชีวิต
รวบรวมและแปลโดย – เจริญเกียรติ ธนะสุขถาวร

................................................



เมื่อสิ้นวัน...
หาความสุขเล็กๆน้อยๆให้ชีวิต
ด้วยการถามตัวเองว่า
อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับเราในวันนี้


จากหนังสือ – พลังใจ
รวบรวมและแปลโดย –
กองบรรณาธิการรีดเดอร์ ไดเจสท์

…………………………………………..



ในโลกของการแข่งขัน
เราอาจจะได้คนเก่งที่ทำทุกวิถีทาง
เพื่อให้ตัวเองมีชื่อเสียง เงินทอง
ประสบความสำเร็จ แม้จะต้องโกง เอาเปรียบคนอื่น
ทอดทิ้งครอบครัว และไม่มีความสุขที่แท้จริง
เพราะไม่มีเพื่อน ไม่มีคนรัก....
แล้วในโลกของการแข่งขัน
เมื่อมีผู้ชนะ ก็ต้องมีผู้แพ้
(ผู้แพ้มีมากกว่าผู้ชนะหลายเท่าเสียด้วย)
เราอาจได้คนที่แพ้ไม่เป็น
แล้วทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่นจนหมดอนาคต
หรือว่าเราอาจจะได้คนที่รู้รสความพ่ายแพ้มาตั้งแต่เด็ก
จนขาดความมั่นใจไปตลอดชีวิต


เขียนโดย – ปาฎิหาริย์
จากนิตยสาร – Life & Family ปีที่ 8 ฉบับที่ 87

……………………………………….



เงินจำเป็นสำหรับชีวิต
แต่ไม่ได้สำคัญอันดับหนึ่ง
เพราะคนรวยก็ทุกข์ได้เหมือนกัน
ฉะนั้น คุณค่าของคนน่าจะอยู่ที่ความคิด
และการงานมากกว่า ว่าเราจริงจังกับมันแค่ไหน
เมื่อมีมือ,เท้า,สมอง,สติปัญญาแค่นี้
ในเวลาที่เหลืออยู่ ก็ควรทำสิ่งที่มีแก่นสาร
เพราะชีวิตเกิดมาไม่มีอะไร
ตายไปก็เหลือเพียง....ความว่างเปล่า

ปิยะ ธีรสุวรรณ์ (ศิลปิน,จิตรกร)
จากนิตยสาร – Open ฉบับที่ 33


………………………………………………..



การที่เราได้สัมผัสคนเยอะ
ทำให้เราได้เรียนรู้กับความสำเร็จของคน
ได้เห็นว่าความสำเร็จ กว่าจะได้มานี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย
มันมีเรื่องมากมายที่เขาต้องผ่านมา
ฉะนั้น...ไอ้ความสำเร็จที่เราได้รับอยู่ในเวลานี้
เป็นเรื่องเล็กมาก....
แต่เราก็ต้องแยกแยะนะ
เพราะคนที่ประสบความสำเร็จ
กับคนที่มีความสุขนี่ไม่เหมือนกัน
บางทีเราก็พบคนที่ร่ำรวย...แต่ขาดความสุข


ดิลก ทองวัฒนา (นักธุรกิจด้านประกัน,นักแสดง)
จากนิตยสาร – ขวัญเรือน ฉบับที่ 759

…………………………………………………



หากเป็นคนดี...ก็ควรจะประสบความสำเร็จด้วยนะ
เป็นคนดี....บางทีก็ทำให้คนรอบข้างไม่ได้สุขไปด้วย
และการเป็นคนดี ก็ควรเป็นตัวอย่างให้กับคนได้ด้วย


ดิลก ทองวัฒนา (นักธุรกิจด้านประกัน,นักแสดง)
จากนิตยสาร – ขวัญเรือน ฉบับที่ 759


……………………………………………..



ผมตระหนักว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก
ที่ได้ประสบความสำเร็จในทุกสิ่ง
และได้เดินไปรับชัยชนะแล้ว...
ผมจึงจะใช้เวลาที่เหลืออยู่
ในการทำสิ่งที่สามารถทำให้กับโลกของเรา
...รู้มั้ยว่าสิ่งหนึ่ง ที่สังคมอเมริกันได้พลาดไปจริงๆ
คือ....การที่เราต่างมองผู้อื่น ด้วยความคิดที่ว่า
ถ้าคุณรวย คุณก็จะมีความสุข



จากหนังสือ – วาทะของ เท็ด เทอร์เนอร์
( Ted Turner)
เขียนโดย - Janet C.Lowe
แปลโดย – เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์

…………………………………………….



เป็นอะไร...ไม่สำคัญเท่าเป็นสุข
และได้ทำในสิ่งที่ตนรัก
ทำประโยชน์ให้สังคมสักนิดหนึ่งก็ยังดี
ให้ตัวเองมีค่า....แต่ไม่ต้องยิ่งใหญ่
แค่นี้ก็พอแล้ว


รัตนพล ธรรมชาติ
(อาชีพรับจ้างผลิตเสื้อผ้า-เครื่องแต่งกาย)
จากนิตยสาร – Open ฉบับที่ 38

………………………………………………



ความสุข....
เป็นสิ่งที่เราหวงแหนไว้กับตัวตลอดเวลาไม่ได้
ถ้าความตื่นเต้นท้าทายมาถึง ก็ต้องลองดู
มันก็คือ การทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด
การที่จะย้อนกลับมามีความสุขมากขึ้นน้อย
หรือมากกว่าเดิม
หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่อนาคตจะบอกได้
พูดง่ายๆ...ผมใช้ชีวิตเต็มที่ของผม
ถ้าไม่มีอะไร...


จักรภพ เพ็ญแข (พิธีกร,นักการเมือง)
จากนิตยสาร – ขวัญเรือน ฉบับที่ 771

………………………………………………….



เราปฎิเสธ “ความทุกข์” จาก “ปัญหา” ที่เกิดขึ้นไม่ได้
แต่เราต้องไม่ให้ “ความทุกข์” จ่อมจมอยู่กับเราชั่วนิรันดร์


จากหนังสือ – ฝันใกล้ใกล้ ไปช้าช้า
เขียนโดย – หนุ่มเมืองจันทร์

……………………………………………



คนที่เราต้องทำความรู้จักมากที่สุดในโลก
ก็คือ คนที่เราเห็นทุกครั้งเวลาส่องกระจก
รู้จักคนทั้งโลก แต่ไม่รู้จักตัวเอง
ชีวิตนี้ก็คงไม่มีความสุข


จากหนังสือ – ฝันใกล้ใกล้ ไปช้าช้า
เขียนโดย – หนุ่มเมืองจันทร์

……………………………………………….



กฎของการเปลี่ยนแปลง
- ทุกข์...เพราะไม่อยากเปลี่ยนแปลง
- ทุกข์...เพราะทนการเปลี่ยนแปลงไม่ได้
- ทุกข์...เพราะห้ามการเปลี่ยนแปลงไม่ได้


จากการบรรยายโดย – พ.อ.นพ. พงศักดิ์ ตั้งคณา
จากหนังสือ - ฮา...สุดขีด 0
เรียบเรียงโดย – สมคิด ลวางกูร

……………………………………………



ผมพบว่า ความสุขที่แท้
คือ ชีวิตที่เรียบง่าย...
ชีวิตที่เรียบง่ายจะอยู่ได้นาน


จากหนังสือ – a day story
เขียนโดย – วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์

…………………………………………….



จำได้ว่าครั้งหนึ่ง....
ดิฉันเดินทางไปยังหมู่บ้านชาวเล
ในจังหวัดทางใต้แห่งหนึ่งของประเทศไทย
สิ่งที่พบกลับสะกิดใจ ให้ระลึกได้ว่า
แท้จริงแล้ว...
ความเรียบง่ายนั้นอยู่กับมนุษย์มานานแสนนาน
หากแต่กาลเวลาและกิเลศ
ทำให้เราเดินเข้าสู่ความซับซ้อนของชีวิตโดยไม่รู้ตัว
...ชาวเลผู้อยู่กับท้องทะเล
มีรอยยิ้มที่งดงามกับสมบัติเพียงน้อยชิ้น
เสื้อ 2-3 ตัว กางเกงอีกนิดหน่อย
รองเท้าเก่าๆเพียงคู่เดียว....
บ้านก็คือเรือ ซึ่งเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
ทั้งเรือนเกิด เรือนนอน และเรือนตาย
เมื่อไถ่ถามว่าทำไมไม่ซื้อรองเท้าอีกสักคู่เล่า
เพื่อนของเราตอบอย่างสบายอารมณ์ว่า
“มีคู่เดียวนี่แหละ ไม่ต้องเลือกว่าจะใส่คู่ไหน”
จริงสินะ....ถ้าเรามีของน้อยชิ้น
เราจะรู้ค่าของมัน มากกว่าเจ้าข้าวของกองโตเสียอีก
หนทางสู่ความเรียบง่าย....
แท้จริงแล้ว...อยู่ในใจของเรานี่เอง
ใช่ว่าต้องไปหามาจากไหน

เขียนโดย – ธนวดี ศรีสวัสดิ์ศักดิ์
จากนิตยสาร – ELLE ฉบับที่ 114

……………………………………………….



ผมเห็นด้วยว่า ชีวิตที่มีความสุขแท้
ต้องเรียบ น้อย และง่ายที่สุด
ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่รอบตัวเราไม่ได้เป็นแบบนี้
ทุกคนแข่งขันหาเงินให้ได้มากที่สุด
ฝันคล้ายกันว่าระหว่างที่ยังหนุ่มสาว ยังมีแรง
จงทำงานหนักไปเถอะ แก่ตัวแล้วค่อยเที่ยว
ก่อนที่จะพบความจริงว่า
เมื่อถึงวันนั้น...เราก็ไม่มีแรงไปเที่ยว
ไม่มีเวลามีความสุขแล้ว


จากหนังสือ – a day story
เขียนโดย – วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์

…………………………………………………



“คุณจะลำบากไป 10 ปี การเงินจะชักหน้าไม่ถึงหลัง
สุขภาพก็จะไม่สูดี”
หมอดูทำนายอนาคตให้ลูกค้าคนหนึ่ง
“หลังจากนั้น ผมจะสบาย มั่งมีศรีสุขใช่มั้ยหมอ ?”
“เปล่า...หลังจากนั้น...คุณจะชินไปเอง”


ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง
จาก – Internet and Forward mail

……………………………………………………



ผู้ใหญ่ยิ่งต้องการมาก
เด็กเด็กยิ่งได้รับน้อยลง
ผู้ใหญ่ไม่สงบสุข
โลกก็ไม่สงบสุข
เด็กเด็กก็ไม่สงบสุข


บางส่วนจากบทกวี – เด็กคนนั้น
จากหนังสือ – มนุษย์เล็กเล็ก
เขียนโดย – สมชาย บำรุงวงศ์

………………………………………………..



คนเป็นอันมากในโลกนี้
มักคิดว่าสวรรค์หรือความสุข อยู่ยังที่แห่งใดแห่งหนึ่ง
หลายคนคิดว่า การบรรลุธรรม
หรือการบังคับตัวเองให้อยู่ในครรลองแห่งธรรม
เป็นอีกชีวิตหนึ่ง
เป็นหนทางที่แตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้...
แต่ที่จริงแล้ว
ความดีไม่ใช่ต้องออกไปจากความชั่วเสมอไป
ความชั่วย่อมเปลี่ยนเป็นความดีได้
ความยากลำบากย่อมเป็นแหล่งให้เข้าใจชีวิตที่แท้จริง


จากหนังสือ – สนทนานิกายเซ็น
ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง
แปลโดย – เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และคณะ

…………………………………………………….



ความสุข....
คือ การรู้สึกพอ


อารียา สิริโสดา (นักเขียน,นางแบบ)
จากนิตยสาร – LISA ปีที่ 5 ฉบับที่ 6

…………………………………………………..



ผมมักสงสัยเสมอว่า
พวกเขาทำอะไรผิด ผมทำอะไรถูก
เพราะแม้ผมจะล้มเหลวอยู่หลายครั้ง
พอๆกับที่ได้ชัยชนะ
แต่ผมเห็นว่า ชีวิตผมประสบความสำเร็จ
เพราะผมเป็นคนมีความสุข


จากหนังสือ – บันทึกความสำเร็จ
เขียนโดย – G.Kingsley Ward
แปลโดย – สุพรรณี วราทร


……………………………………………….



ในห้วงเวลาที่ฉันสิ้นหวังที่สุดนั้น
ฉันมักค้นพบสิ่งที่สวยงาม
อย่างน่าประหลาดใจที่สุดเสมอ


จากบางส่วนของบทกวี – บ่อแห่งความหวัง
จากหนังสือ – ดอกไม้บานในใจฉัน
เรื่องและภาพโดย – Jimmy Liao
แปลโดย – ชุตินันท์ เอกอุกฤษฏ์กุล





10 มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของโลก



มหาวิทยาลัยซาเลอโน ประเทศอิตาลี (การแพทย์) ศตวรรษที่9


มหาวิทยาลัย โบลอกนา ประเทศอิตาลี (ทางวิชาชีพ) ศตวรรษที่11


มหาวิทยาลัยปารีส ประเทศฝรั่งเศส (กฎหมาย) ศตวรรษที่12


มหาวิทยาลัยซอร์บอร์น ประเทศฝรั่งเศส (ศิลป์-การแพทย์) ศตวรรษที่12


มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ (กฎหมาย-ศิลป์) ศตวรรษที่12


มหาวิทยาลัยเครมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ (กฎหมาย-เศรษฐศาสตร์) ศตวรรษที่12


มหาวิทยาลัยตูลูช ประเทศเยอรมัน (กฎหมาย-เกษตร) ศตวรรษที่14


มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ประเทศสก๊อตแลนด์ (การค้า-อุตสาหกรรม) ศตวรรษที่14


มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศอเมริกา (การค้า-กฎหมาย) ศตวรรษที่16


มหาวิทยาลัยเพนซินวาเนีย ประเทศอเมริกา (แพทย์-เศรษฐศาสตร์) ศตวรรษที่17

--------------------------------------------------------------------------------------------------

สมญานามของโลก






กระดูกสันหลังของประเทศอังกฤษ

เทือกเขาเพนไนน์


กระดูกสันหลังของยุโรป

เทือกเขาแอลป์



กำแพงแห่งความอัปยศ

กำแพงเบอร์ลิน กำแพงที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์สร้างขึ้น เพื่อกั้นพรมแดน ระหว่าง เบอร์ลินตะวันตกกับตะวันออก ของเยอรมันนี (ปัจจุบันเหลือเพียงชื่อ)



กำแพงเย็น

กำแพงนอกฝั่งนิวฟันส์แลนด์



เกาะทวีป

ทวีปออสเตรเลีย



เกาะเครื่องเทศ

เกาะโมลุกกะ ของประเทศอินโดนีเซีย



ขั้วแห่งความหนาวเย็น

เมืองเวอร์โคยันสก์ ในไซบีเรีย มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในโลก



ไข่มุกแห่งภาคตะวันออก

ประเทศศรีลังกา



คะแนลโซน

ดินแดนทั้งสองฝั่งคลองปานามา



เจ้าแห่งทะเลน้ำจืด

ทะเลสาปสุพีเรีย อยู่ระหว่างแคนาดา กับสหรัฐอเมริกา



เจ้าแห่งแม่น้ำ

แม่น้ำอเมซอน



ชนชาติมักกะโรนี

ชาวอิตาลี



ชิคาโกแห่งรัสเซีย

เมืองยูเคน เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน



ชาวกีจี้

ชาวนิวซีแลนด์



สวิสต์แห่งทิศใต้

ประเทศนิวซีแลนด์



ดินแดนที่สะอาดที่สุด

ประเทศสิงคโปร์



ดินแดนแห่งเกาะโลก

ประเทศฟิลิปปินส์ เพราะมีเกาะมากที่สุด กว่า 7000 เกาะ



ดินแดนแห่งแหล่งกำเนิดศาสนา

ประเทศอินเดีย



ดินแดนแห่งพระเจดีย์

ประเทศพม่า



ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์

ประเทศอิสราเอล



ดินแดนแห่งฟยอร์ด

ประเทศนอรเวย์ เพราะชายฝั่งของประเทศเเว้าแหว่งมาก



ดินแดนแห่งที่ราบสูง

ทวีปแอฟริกา



ดินแดนแห่งเมืองยิ้ม

ประเทศไทย



ดินแดนแห่งพระอาทิตย์อุทัย

ประเทศญี่ปุ่น



ดินแดนแห่งหมื่นทะเลสาป

ประเทศฟินแลนด์



ดินแดนแห่งพระอาทิตย์ไม่ตกดิน

ประเทศอังกฤษ เเพราะมีอาณานิคมอยู่ทั่วโลก



ดินแดนแห่งน้ำนมและน้ำผึ้ง

ประเทศอิสราเอล



ดินแดนแห่งทะเลทั้ง 5

เอเซียตะวันตกเฉียงใต้



ดินแดนแห่งโรงสีลม

ประเทศเนเธอร์แลนด์



ดินแดนแห่งโคนม

ประเทศเดนมาร์ก



ดินแดนแห่งดอกทิวลิป

ประเทศเนเธอร์แลนด์



ดินแดนมหัศจรรย์แห่งอเมริกาใต้

ประเทศบราซิล



ถ้วยน้ำตาลโลก

ประเทศคิวบา หรือหมู่เกาะอินดีสตะวันออก แหล่งผลิตน้ำตาล



ทวีปแห่งความแตกต่าง

ทวีปเอเซีย



ทวีปแห่งน้ำแข็ง

ทวีปแอนตาร์ติก



ทวีปมืด

ทวีปแอฟริกา เพราะเป็นทวีปล้าหลัง



ทะเลแห่ง 3 ทวีป

ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน


ทะเลแห่งความเค็ม

ทะเลสาปเดดซี อยู่ระหว่างอิสราเอล กับจอร์แดน



ทะเลตาย

ทะเลสาปเดดซี



ทางแยกแห่งตะวันออกไกล

ประเทศสิงคโปร



นครแห่งผู้ชาย

กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เพราะผู้ชายแต่งตัวเรียบร้อย



นครแห่งผู้หญิง

กรุงปารีส แหล่งผลิตเครื่องแต่งกายสตรี ชั้นนำของโลก



นครแห่ง 2 ทวีป

เมืองอิสตันบูล เมืองหลวงของตรุกี เพราะมีดินแดนอยู่ทั้งสองทวีป คือเอเซีย
กับยุโรป



บริเทนแห่งตะวันออก

ประเทศญี่ปุ่น



ประธานาธิบดีแห่งทาสนิโกร

อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่16 ของสหรัฐฯ



ประตูสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ช่องแคบยิบรอลต้า



บิดาแห่งชนชาติอเมริกา

ยอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ



ป้อมเทวดาแห่งกรุงโรม

พิพิธภัณฑ์ ในประเทศอิตาลี



พิพิธภัณฑ์แห่งสงคราม

พิพิธภัณฑ์ ในกรุงปารีส



ม่านไม้ไผ่

สาธารณรัฐประชาชนจีน



ม่านเหล็ก

สหภาพโซเวียต



แม่น้ำวิปโยค

แม่น้ำฮวงโห หรือแม่น้ำเหลือง ในประเทศจีน



แม่น้ำถ่านหิน

แม่น้ำไรน์



แม่น้ำนานาชาติของเอเซีย

แม่น้ำโขง



แม่น้ำนานาชาติของยุโรป

แม่น้ำไรน์



แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์

แม่น้ำคงคา ในประเทศอินเดีย



แมนเชสเตอร์ของญี่ปุ่น

เมืองโอซากา



แมนเชสเตอร์ของอินเดีย

เมืองบอมเบย์ ศูนย์กลางแห่งการทอผ้าของอินเดีย



เมืองในหมอก

กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ



เมืองเปียก

เมืองเชอราปุนจิ ของอินเดีย เพราะเป็นเมืองที่ฝนตกมากที่สุดในโลก



เมืองน้ำหอม

เมืองโคโลญ ประเทศฝรั่งเศส



เมืองแห่งการพนัน

เมืองมอนติคาร์โล ประเทศมอนาโค



เมืองแห่งคลอง

เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี



เมืองมืด

เมืองบริเทน ทางภาคกลางของอิงแลนด์ ประเทศอังกฤษ



เมืองแห่งหมอกควัน

เมืองฟิตเบอร์ก ประเทศสหรัฐฯ



ยักษ์หนุ่มแห่งภาคใต้

ประเทศอาร์เจนตินา



ระฆังแห่งเสรีภาพ

ระฆังในประเทศสหรัฐอเมริกา



ลุงแซม

ใช้เรียกประเทศสหรัฐอเมริกา



เวนิสแห่งตะวันออก

กรุงเทพมหานคร



เวนิสน้อย

ประเทสเวเนซูเอลา



สนามกีฬาแห่งกรุงโรม

สนามกีฬาโดโลซิมอัล ในอิตาลี



สวิสต์เซอร์แลนด์แห่งแอฟริกา

เทือกเขาเอธิโอเปีย



สวิสต์แห่งเอเซีย

เทือกเขาหิมาลัย



หลังคาโลก

ธิเบต เพราะอยู่สูงที่สุดในโลก



หม้อกาแฟของโลก

ประเทศบราซิล เพราะผลิตกาแฟได้มากที่สุดในโลก



อมตนคร

กรุงโรม ประเทศอิตาลี



เอเธนส์สมัยใหม่

เมืองเอดินเบอระ ประเทศสก็อตแลนด์

------------------------------------------------------------------------

14 ที่สุดในชีวิต : The 14 Most In One 's Life



1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ ตัวเราเอง 
The most formidable enemy in one's life is oneself. 

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอวดดี 
The biggest failure in one's life is self-important. 

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกลวง
The unwisest act in one's life is deceit. 

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอิจฉาริษยา 
The most miserable act in one's life is jealousy. 

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา คือ การยอมแพ้ตนเอง 
The gravest mistake in one's life is self-abundonment. 

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตของเรา คือ การหลอกตัวเอง
The most sinful act in one's life is self-deception. 

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือการถดถอยของตัวเอง 
The most pitiful temperament in one's life is self-abasement. 

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะวิริยะ 
The most admirable spirit in one's life is perserverance. 

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง 
The most complete bankruptcy in one's life is despair. 

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิตเรา คือ สุขภาพที่สมบูรณ์ 
The greatest wealth in one's life is health. 

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ หนี้บุญคุณ 
The heaviest debt in one's life is a debt gratitude for other's help. 

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ การให้อภัยและความเมตตา 
The groundest gift in one's life is forgiveness and kindness.

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล 
The biggest shortcoming in one's life is permissism onunreason. 

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจมากที่สุด คือ การให้ทาน 
The greatest gratification in one's life is alms giving.

2554-07-30

IQ เด็กนักเรียนไทยเฉลี่ย 98.59 ต่ำกว่ามาตรฐานสากล




                 น.พ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงผลสำรวจความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) ของเด็กนักเรียนไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั่วประเทศ 72,780 คน เก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 – มกราคม 2554ถือเป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดในโลก พบเด็กนักเรียนไทยมีระดับ IQ เฉลี่ย 98.59 ต่ำกว่าค่ากลางมาตรฐานสากล ที่กำหนดได้ที่ 100 ในจำนวนนี้ร้อยละ 48.5 อยู่ในระดับ IQ ต่ำ ซึ่งกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นกลุ่มที่มีค่าเฉลี่ย IQ ต่ำสุดขณะที่นักเรียนในโรงเรียนสังกัดคณะกรรมการการอุดมศึกษา มีระดับ IQ เฉลี่ยสูงสุดทั้งนี้ ระบบการศึกษาไม่ใช่ผลโดยตรงที่ทำให้ระดับ IQ ต่ำ แต่เกิดจากการรับสารไอโอดีนตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงอายุ 7 ปี ซึ่งหลายพื้นที่ยังไม่ได้รับต่อเนื่อง รวมถึงสภาพแวดล้อมการเลี้ยงดูเด็กที่ขาดความอบอุ่นเด็กไม่ได้สัมผัสกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และโภชนาการที่เหมาะสมโดยจังหวัดที่พบเด็ก IQ ต่ำสุดในประเทศคือ

จังหวัดนราธิวาส มี IQ เพียง 88.07 

ส่วนจังหวัดที่เด็กนักเรียนมี IQ สูงที่สุดในประเทศคือ

จังหวัดนนทบุรี เฉลี่ยอยู่ที่ 108.91 

และพบเด็กกลุ่มอัจฉริยะสูงถึงร้อยละ 9.5
มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่ร้อยละ 2 ซึ่งช่องว่างระดับสติปัญญาของเด็กนักเรียน
สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างฐานะทางสังคม และความมั่งคั่งของประเทศในอนาคต
จำเป็นต้องผลักดันกฎหมายในประเทศบังคับให้เกลือทุกชนิด
ทั้งเพื่อการบริโภคในคน สัตว์ และอุตสาหกรรม ต้องเป็นเกลือไอโอดีนทั้งหมด

                 นายณรงค์ฤทธิ์ อัศวเรืองพิภพ อาจารย์ประจำวิชาสถิติ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการสำรวจสำรวจในครั้งนี้ พบว่า ค่าเฉลี่ยระดับไอคิวของเด็กนักเรียนไทยในภาพรวมระดับประเทศอยู่ที่ 98.59 จากค่าเฉลี่ยปกติอยู่ที่ 90 – 109 โดยผลนี้ถือว่าเป็นระดับสติปัญญาที่อยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ค่อนไปทางต่ำ ทั้งนี้ หากแยกเป็นรายภาคเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ กรุงเทพมหานครมีไอคิวเฉลี่ย 104.5 ภาคกลางเฉลี่ย 101.29 ภาคเหนือเฉลี่ย 100.11 ภาคใต้ไอคิวเฉลี่ย 96.85 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลี่ย 95.99

                 นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อดูในภาพรวมของประเทศ พบว่า มีเด็กเกือบครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 48.5 มีปัญหาระดับสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่า 100 ซึ่งเป็นเกณฑ์ระดับสากลที่จะต้องพัฒนาให้ได้ รวมทั้งพบว่ามีเด็กกลุ่มที่มีปัญหาระดับสติปัญญาบกพร่อง คือไอคิวต่ำกว่า 70 อยู่ถึงร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากลคือ ไม่ควรเกินร้อยละ 2
นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า “สำหรับ 10 อันดับจังหวัดที่มีนักเรียนซึ่งมีไอคิว เฉลี่ยสูงกว่าปกติ ได้แก่

1.นนทบุรีอยู่ที่ 108.91

 2.ระยองเฉลี่ย 107.52 

3.ลำปางเฉลี่ย 106.62

 4.กรุงเทพฯ เฉลี่ย104.50 

5.ชลบุรีเฉลี่ย 103.92 

6.สมุทรสาครเฉลี่ย 103.73

 7.ตราดเฉลี่ย 103.51

 8.ปทุมธานีเฉลี่ย103.34 

9.พะเยาเฉลี่ย 103.32 


และ 10.ประจวบคีรีขันธ์ เฉลี่ย 103.17”


นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับ10 อันดับจังหวัดที่มีนักเรียนไอคิวเฉลี่ยต่ำกว่าปกติ ได้แก่

1.นราธิวาส เฉลี่ยที่ 88.07 

2.ปัตตานีเฉลี่ยที่ 91.06 

3.ร้อยเอ็ดเฉลี่ยอยู่ที่ 91.65 

4.อุบลราชธานี เฉลี่ยอยู่ที่ 93.51

 5.สกลนคร เฉลี่ยที่ 93.74 

6.กาฬสินธุ์ เฉลี่ยที่ 93.78 

7.กระบี่ เฉลี่ยที่ 93.85

 8.หนองบัวลำภู เฉลี่ยที่ 94.06

 9.กำแพงเพชรเฉลี่ยที่ 95.22

 และ 10.มหาสารคามเฉลี่ยที่ 95.28

                  โดยยังพบว่า เด็กนักเรียนไทยเพศหญิงมีไอคิวเฉลี่ยสูงกว่า นักเรียนชาย และนักเรียนในเขตเมืองสูงกว่านักเรียนในเขตอื่นๆ ส่วนนักเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สาธิต) มีไอคิวสูงกว่านักเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สังกัดกรุงเทพมหานคร และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมีไอคิว 113.70, 106.35, 101.96 และ 97.59 ตามลำดับ
ด้านนพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า การวิจัยครั้งนี้เป็นการสำรวจทั่วประเทศเป็นครั้งแรกที่ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ที่เป็นตัวแทนในระดับประเทศ ระดับภาค และระดับจังหวัด สำรวจเด็กนักเรียน 6-15 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สาธิตและราชภัฎ) และสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ จากการสุ่มตัวอย่าง 7-19 โรงเรียนต่อจังหวัด จำนวนนักเรียนประมาณ 851 – 1,163 คน ต่อจังหวัดซึ่งสามารถเป็นตัวแทนภาพในระดับจังหวัดได้ โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนในระดับจังหวัดไม่เกินร้อยละ 2.8 และเป็นตัวแทนภาพในระดับประเทศ ที่มีค่าความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไม่เกินร้อยละ 0.33

โดยระดับไอคิวของเด็กนักเรียนไทยครั้งนี้ ยังถือว่าต่ำกว่าประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างสิงค์โปร์ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียเล็กน้อย ดังนั้นจึงเป็นสัญญาณว่าประเทศไทยควรมีการเร่งกระตุ้นให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของการพัฒนาไอคิว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรณรงค์ให้มีการเพิ่มสารไอโอดีนในอาหารที่จำเป็น เพื่อสร้างโภชนาการที่ดีซึ่งขณะนี้ สธ.เร่งดำเนินการอยู่ในส่วนของการแจกไอโอดีน และการเติมสารในเครื่องปรุงอาหาร ซึ่งในอนาคตคงต้องประสานงานกับหน่วยงานอื่นอาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอความร่วมมือในการออกกฎหมายที่ชัดเจน เพื่อควบคุมให้ผู้ประกอบการมีการเติมสารไอโอดีนลงในผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ และอาหารต่าง รวมทั้งควบคุมอุตสาหกรรมเกลือและวัตถุปรุงรสอื่น ๆให้มีส่วนผสมของไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมด้วย” นพ.อภิชัย กล่าว

                   อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า นอกจากการสร้างโภชนาการที่ดีแล้วการพัฒนาระองค์ความรู้ก็เป็นเรื่องจำเป็น เช่น ผู้ปกครองควรที่จะฝึกให้เด็กมีการอ่านเสริมสร้างจินตนาการ เรียนรู้จังหวะดนตรี และเล่นกีฬาออกกำลังกาย ช่วยส่งเสริมความฉลาดทางสติปัญญา หรือควรมีการกระตุ้นการเรียน

5 คำคมว่าด้วยการถ่ายภาพ


“ย่อมมีคนอยู่สองคนอยู่ในรูปภาพแต่ละรูป: คนถ่ายภาพและคนดูภาพ”
 – Ansel Adams

Ansel Adams เป็นคนที่เต็มไปด้วยคำคมที่เป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายภาพ คำกล่าวข้างบนนี้ Adams เน้นถึงความสำคัญของคนดูภาพ – ไม่ได้อยู่ในฐานะที่เป็นผู้ตัดสินหรืออะไรอย่างนั้น แต่อยู่ในฐานะที่เป็นผู้ฟังเรื่องราวของคนถ่ายภาพ ดังนั้นเมื่อคุณมองผ่านทางช่องมองภาพ ลองคิดถึงเรื่องที่คุณต้องการจะบอกให้คนดูได้รับรู้ด้วย


“สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่กล้องถ่ายรูป แต่อยู่ที่มุมมอง”
 – Alfred Eisenstaedt

กล้องถ่ายรูปเป็นทั้งเครื่องมือชนิดหนึ่งและเป็นสิ่งที่ทำงานร่วมกับคนถ่าย แต่ถ้าไม่มีการควบคุม มันก็ทำงานไม่ได้ Eisenstaedt เตือนเราว่าฟิล์มและกล้องของเราสามารถถ่ายรูปสิ่งที่เราเห็นผ่านทางวิสัยทัศน์อันสร้างสรรค์ และยังเน้นเรื่องความสำคัญของการฝึกตาให้ “มอง” เห็นรูปก่อนที่จะกดชัตเตอร​์


“คุณไม่ควรเชื่อตาของคุณถ้าจินตนาการของคุณมันไม่ชัดเจน”
 – Mark Twain

Mark Twain ซึ่งเป็นคนที่มีคำคมมากมายคนหนึ่ง บอกกับเราเรื่องความสำคัญของจินตนาการในคำกล่าวข้างต้นนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการถ่ายภาพ เพิ่มเติมจากคำกล่าวของ Eisenstaedt, Twain บอกเป็นนัยให้มองด้วยตาที่ถูกนำทางโดยจินตนาการ หมดไอเดียหรือยัง ลองดูผ่านทางช่องมองภาพด้วยจินตนาการแบบเด็กๆดูสิ!


“ถ้าภาพของคุณยังไม่ดีพอ แสดงว่าคุณยังเข้าใกล้สิ่งที่คุณต้องการถ่ายไม่มากพอ” 
– Robert Capa

หนึ่งในกฏทองสิบข้อของ Lomography":http://www.lomography.com/about/the-ten-golden-rules บอกเรา “ให้เข้าใกล้สิ่งที่ต้องการถ่ายด้วยความปรารถนา ในแบบโลโม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” และ Robert Capa ก็บอกว่า เช่นกัน! ไม่ต้องกลัวที่จะเข้าถึงสิ่งที่อยากถ่าย จับความรู้สึกที่แท้จริง การแสดงออกที่รุนแรง และรายละเอียดที่ซับซ้อนเพื่อสร้างภาพถ่ายที่น่าสนใจ


“ภาพถ่ายเป็นภาพคนที่ถูกระบายสีด้วยแสงอาทิตย์” 
– ไม่ระบุชื่อ

ใครก็ตามที่ให้คำคมที่น่ารักเช่นนี้ต้องเป็นคนที่บูชาพระอาทิตย์และเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพด้วยฟิล์มอย่างแน่นอน พวกเราทุกคนรู้ว่าฟิล์มส่วนใหญ่ไม่ได้รับแสงอาทิตย์มากพอ เมื่อคุณถ่ายรูปโดยใช้ฟิล์ม คุณก็ได้เรียนรู้ว่าจะนำแสงธรรมชาติ แสงจ้าของดวงอาทิตย์ และความงามของแดดกลางแจ้งมาใช้ได้อย่างไร




2554-07-29

10 สถานที่ฆ่าตัวตายยอดนิยมของโลก

 10. Niagara Falls 

                                น้ำตก ไนแอการา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมของแม่น้ำหลายสายรว มกัน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ยอดนิยมนานกว่า ศตวรรษ เนื่องจากมีบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม โรแมนติก ที่คู่รักหลายคู่ที่ชวนกันไปถ่ายรูปกับน้ำตกเป็นที่ร ะลึกในวันแต่งงาน และในขณะที่บางคนเลือกที่จะเป็นจุดฆ่าตัวตาย!! โดยจุดที่นิยมมากที่สุดคือ “Horseshoe Falls” ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุด สูงกว่าตึก 16 ชั้นพร้อมด้วยกระแสน้ำก็เชี่ยวกราดแน่นอนว่าถ้าตัดสิ นใจโดดมาแล้วไม่รอดชัว ร์ จากอดีตจนถึงปัจจุบันมีคนตายตัวตายในที่แห่งนี้ถึง 2780 คน(เท่าที่พบศพ) เฉลี่ยปีละ 23 คน 

9. Cold Springs Canyon Bridge 

                                มีหลายคนเชื่อว่าสะพานถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อเป็นเส้นทางระหว่างความเป็น ทางตาย หลายคนมักเลือกจบชีวิตความหวังของเขาด้วยการโดดลงสะพาน Cold Springs Canyon Bridge หลายคนคงไม่รู้จักสะพานนี้ และมันก็ไม่ได้ติด“10 สะพานฆ่าตัวตาย”ด้วย เอาเป็นว่ามันเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงสำหรับฆ่าตัวตา ย เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อให้รถขับผ่านภูเขาซันตา(S anta Ynez Mountains) เชื่อมกับเมืองซานตาบาร์บาราและเมือง Santa Ynez แค ลิฟอร์เนีย เปิดใช้บริการปี 1963 โดยคนที่เลือกจะฆ่าตัวตายนี้ก็เพราะวิวด้านข้างสวยแล ะโรแมนติกมาก อีกทั้งพื้นด้านล่างหุบเขาลึกเป็นป่าและหินตายแน่นอน เฉลี่ยตายปีละสิบคน จนมีการถกเถียงว่าควรแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการใช้มาตร การต่างๆ เพื่อป้องกันการใช้สถานที่แห่งนี้ฆ่าตัวตาย 

9. Tour Eiffel 

                                หอไอเฟล เป็นหอคอยเหล็ก สร้างขึ้นใน ค.ศ.1887-9 ออก แบบโดยวิศวกรที่ มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ ไอเฟล ตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส และสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั ่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุด ในโลกอีกด้วย ด้วยความสูงกว่า 325 เมตรและโรมนติกดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยม มาฆ่าตัวตายอย่างช่วย ไม่ได้ จากสถิตจนถึงปัจจุบันมีคนฆ่าตัวตายที่หอคอยนี้ทั้งหม ด 350-400 คน การฆ่าตัวตายครั้งแรกคือการแขวนคอตนเองจากคาน และจากสถิต 90 ปีผ่านมา มีคนกว่า 369 คนพยายามฆ่าตัวตายโดยโดดจากที่สูงจาก 57 เมตรชั้นแรก 

8. Bridgend 

                                Bridgend เป็นเมืองเล็กๆ ประชากรแค่ 39,429 คน(สำรวจปี 2001) ในคาร์ดิฟฟ์ เวลส์ เป็นเมืองเก่าแก่ในประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ย วที่โรแมนติกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปราสาท สะพาน หอคอยที่เก่าแก่ขลัง จึงไม่น่าแปลกอะไรที่เรามักได้ยินข่าวการฆ่าตัวตายขอ งหนุ่มสาวบ่อยครั้งใน หลายปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยปีละ 23 คน อายุประมาณ 15-30 ฆ่าตัวตายในรูปแบบต่างๆ กัน จนสื่อของอังกฤษต้องรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงกา รฆ่าตัวตาย 

7. Las Vegas Strip 

                                ลาสเวกัส เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในมลรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ที่ รู้จักกันคนทั่วโลก ในชื่อ "เมืองแห่งบาป" เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสี การพนัน และการฆ่าตัวตาย โดยผู้หมดหวังในชีวิตมักเข้ามาในเมืองแห่งนี้โดยการจ องห้องพัก ก่อนที่จะฆ่าตายพวกเขาจะดื่มสุราและเล่นการพนันให้สน ุกสุดเหวี่ยงในชีวิต และจบชีวิตตนเองในห้องพักของตนเองหรือ กระโดด ตึก และที่พบบ่อยก็คือทำทีขอตัวจากกลุ่มเพื่อนหรือครอบคร ัวและเขาก็ไม่กลับมาอีก เลย ที่น่าตะลึงคือข่าวเหล่านี้มักปกปิด ไม่ว่าจะเป็นทาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พนักงาน โรงแรม บ่อนการพนัน ล้วนปกปิดข้อมูลนี้ทั้งหมดไม่ให้ปรากฏเป็นข่าวออกไปส ู่สื่อสาธารณะ เนื่องจากเรื่องเหล่านี้มีผลกระทบต่อชื่อเสียงและธุร กิจของเมือง 

6. Sandanbeki 

                                ซันดัมเบกิ เป็นหน้าผาสูงชันกว่า 50 เมตร อยู่ในเมืองวากายามิซึ่งในตำนานเล่าว่ามีถ้ำทะเลลับท ี่ซ่อนเรือโบราณเอาไว้ อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงสำหรับคนที่จะฆ่ าตัวตาย เนื่องจากเป็นจุดที่มองทัศนียภาพที่สวยและดีที่สุดใน ญี่ปุ่นทำให้ได้ บรรยากาศอารมณ์เศร้าๆ อีกทั้งถ้าโดดลงไปไม่มีทางรอดแน่ๆ เพราะด้วยหน้าผาที่สูงชันและพื้นล่างเต็มไปด้วยโขดหิ น คลื่นลมแรง ทะเล โดยผู้ฆ่าตัวตายส่วนใหญ่มักเป็นคู่รักที่ไม่สมหวัง หรือคนเดียวโด่ๆ ก็ยังไหว จนสถานที่แห่งนี้ได้ขนานนามว่า “ดอกไม้ที่ตายแล้วจะไม่บานสะพรั่ง” 

5. Sioux Falls 

                                ซูฟอลส์ เป็น เมืองใหญ่ที่มีสถิตเติบเร็วที่สุดในประเทศอเมริกา ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ดาโคตา ถือว่าเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและนันทนาการ เต็มไปด้วยสถานที่แปลกๆ สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ ที่ราบกว้างสวยงาม อีกทั้งในเมืองยังมีกิจกรรมดนตรี หอศิลป พิพิธภัณฑ์ แข่งกีฬา และเมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงในฆ่าตัวตาย โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละปีมีผู้มาในเมืองแห่งนี้ฆ่าตัวตาย ประมาณ 15-25 ต่อปี ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอเมริกันหนุ่มสาว ดังนั้นเมืองแห่งนี้เลยมีการจัดตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพแ ละรักษาโรคและให้ความ สะดวกสบายแก่ผู้ที่รับการปรึกษาปัญหาชีวิตเพื่อแก้ทา งออกไม่ให้ฆ่าตัวตาย 

4. Beachy Head 

                                เป็นแหลมหินชอล์กที่ตั้งอยู่ในแฮสติ้ง อีสต์ซัสซิกซ์ บนชายฝั่งตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่ง เป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษ หน้าผาแห่งนี้ก่อรูปขึ้นด้วยหินปูนละเอียดเมื่อประมา ณหนึ่งล้านปีก่อน จนมีหน้าผาสูงจากน้ำทะเลกว่า 530 เมตร ด้วยความสูงของมันทำให้หลายปีที่ผ่านมาสถานที่แห่งนี ้จึงมีคนฆ่าตัวตายมาก ที่สุดเป็นในโลกเป็นอันดับสาม ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยกระโดดตนเองจากหน้าผาเฉลี่ยประมาณ 20 คนต่อปี ซึ่งข้างล่างเต็มไปด้วยโขดหินและน้ำทะเล ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายโดยการเดินเท้าหรือทางรถยนต ์ ทำให้ทางการมีการตั้งทีมลาดตระเวนออกตรวจตาและตู้โทร ศัพท์พิเศษเพื่อแจ้ง เหตุ และที่นี้เคยเป็นจุดฆ่าตัวตายช็อกโลกมาแล้วเมื่อคุณพ ่อนีลชาวอังกฤษวัย 34 ปี และคุณแม่คาซูมิชาวญี่ปุ่นวัย 44 ปี ได้ตัดสินใจกระโดดพร้อมกันที่ประภาคารของชายหาดพร้อม กับร่างอันไร้วิญญาณของหนูน้อยแซมในเป้ใบใหญ่ เนื่องจากทั้งคู่รับไม่ได้ถ้ามีชีวิตอยู่โดยขาดลูกคน นี้ 

3.The Gap, Australia 

                                Gap เป็น เนินเขาและหน้าผาในเมืองบริสเบน รัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย นอกเหนือจากหน้าผาที่สวยงามแล้วมันยังเป็นสถานที่ท่อ งเที่ยวที่ได้รับความ นิยมมีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมากมายไม่ว่าเป็น สโมสรกีฬา ป่า ร้านอาหาร โรงแรม ช๊อปปิ้ง จึงไม่แปลกอะไรที่โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละปีมีคนถึง 50 คนกระโดดฆ่าตัวตายในที่แห่งนี้รวมไปถึงคนดังอย่างนัก ประกาศสาว Charmaine Dragun ที่ ฆ่าตัวในปี 2007 เนื่องจากสถาวะซึมเศร้าและอาการเบื่ออาหาร ทำให้สถานที่แห่งนี้ต้องติดตั้งกล้องรักษาความปลอดภั ย โทรศัพท์ และรั้วสูงเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย 

2.Aokigahara 

                          ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีอายุขัยเฉลี่ยสูงสุดของโลก โดยสถานที่นิยมที่จะไปฆ่าตัวตายคือ อะโอกิงาฮาราเป็นป่าที่อยู่บริเวณภูเขาฟูจิในญี่ปุ่น โดยจุดที่ฆ่าตัวตายมากที่สุดจะเป็นส่วนที่อยู่ใกล้ภู เขาไฟฟูจิที่เรียกว่า “ทะเลป่า” ซึ่งได้รับขนานนามว่าเป็นจุดฆ่าตัวตายอันดับสองของโล ก สาเหตุเนื่องมาจากนิยายเรื่อง”Black Sea of Trees” ที่ เป็นนิยายที่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับคนรักฆ่าตัวตาย ในตำนานก็ยังเล่าว่าเป็นจุดที่มีผีสิง ปีศาจปรากฏตัวจนกลายเป็นป่าแห่งความตาย นอกจากนั้นยังมีบุคคลที่ฆ่าตัวตายในป่าแห่งนี้หลายหล าย ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก ครอบครัว ผู้สูงอายุ ส่วนสถิตการฆ่าตัวตายประมาณ 70 คนต่อไป ในปี 2002 พบว่ามีการพบศพคนฆ่าตัวตายที่ส่วนใหญ่จะเป็นการแขนคอ ถึง 78 ราย ซึ่งมากกว่าสถิตเดิมจาก 73 รายในปี 1998 และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่เสื่อมถอยและปัญหาการตกงาน 

1. Golden Gate Bridge 

                                สะพานโกลเดนเกตหรือสะพานประตูทองที่ต้อนรับผู้มุ่งมาซานฟรานซิสโก เป็นสะพานแขวนแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทอดยาวข้ามอ่าวตอนเหนือของเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาสร้างในสมัยประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. โรสเวลต์ เมื่อปี ค.ศ. 1933 เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1937 ตอนกลางสะพานยาว 1,280 เมตร กว้าง 27 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล 67 เมตร มีทางรถยนต์ 6 ทาง รถบรรทุก 3 ทาง รถไฟ 2 ทาง ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อสะพานนี้สร้างเสร็จ สะพานกลายเป็นสัญลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาและ กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั ่วไปโลก และนับตั้งแต่สะพานโกลเด้น เกท เปิดตัวเมื่อปี 1937 สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับคนอยากต ายเพราะมีตัวเลขผู้มา ฆ่าตัวตายที่แห่งนี้มากกว่า 1,500 คน(เฉลี่ยปีละ 30 คน) ส่วนสาเหตุที่ทำให้คนนิยมฆ่าตัวตายที่โกลเด้น เกตเนื่องจากสะพานอยู่สูงกว่าผิวน้ำถึง 227เมตร บวกกับกระแสน้ำที่ เชี่ยวกรากแล้ว ทำให้โอกาสที่จะได้ตายสมดังความตั้งใจนั้นสูงเฉียดร้ อยเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งว่ากันว่ามันเป็นสถานที่ฆ่าตัวตายที่ให้ความร ู้สึก โรแมนติกมาก แม้ทางการเองจะออกมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตายบนสะพาน หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะ ติดตั้งกล้องสอดส่องพฤติกรรมของคนบนสะพานตลอดความยาว 3 กิโล เมตรของโกลเด้น เกท การจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนบนสะพานอยู่ตลอดเวลา และยังมีโทรศัพท์สายด่วนบนสะพานให้คนที่ท้อแท้ใจโทรม าพูดคุยปรึกษาเจ้า หน้าที่ได้ด้วย แต่กระนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้สถิตเหล่านี้ลดลงเลย




2leep.com