มีชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมเสื้อผ้าเก่าขาด ท่าทางเฉื่อยชา เอาแต่นั่งทอดหุ่ยปล่อยให้แสงแดดโลมเลียร่างกาย
สลับกับหาวหวอดๆ เป็นระยะ
เมื่ออาจารย์เซนเดินผ่านมาพบคนผู้นี้เข้า จึงเกิดความประหลาดใจจนต้องเอ่ยถามว่า “พ่อหนุ่ม อากาศดีๆ
ในฤดูกาลที่นานๆ จะเวียนมาถึงเช่นนี้ เหตุใดเอาแต่มานั่งเปล่าประโยชน์ ใยไม่ไปลงมือทำสิ่งที่ต่างๆ ควรทำ เจ้าไม่เสียดายช่วงเวลาดีๆ เช่นนี้หรอกหรือ?”
ชายหนุ่มถอนใจครั้งหนึ่ง พลางตอบว่า “บนโลกใบนี้ นอกจากร่างกายแล้ว ไม่มีสิ่งใดเป็นของข้าสักอย่าง
เช่นนั้นใยต้องสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจไปกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยเล่า?”
“เจ้าไม่มีบ้านหรือ?” อาจารย์เซนถาม
“ไม่มี หากมีบ้านก็ต้องเป็นภาระคอยดูแล เช่นนั้นไม่ต้องมีเสียเลยดีกว่า” ชายหนุ่มตอบ
“เจ้าไม่มีคนที่เจ้ารักหรือ?” อาจารย์เซนถามต่อ
“ไม่มี หากมีคนรัก เมื่อหมดรักก็กลายเป็นความเกลียดชัง สู้ไม่มีเสียเลยดีกว่า” ชายหนุ่มว่า
“แล้วมิตรสหายเล่า มีหรือไม่?” อาจารย์เซนไม่ละความพยายาม
“ไม่มี เมื่อมีเพื่อน สักวันก็ต้องสูญเสียเพื่อน แล้วจะมีไปทำไม”
ชายหนุ่มท้วง
“เจ้าไม่คิดจะทำงานหาเงินบ้างหรือ?” อาจารย์เซนยังคงถามต่อไป
“ไม่คิด ได้เงินมาสุดท้ายก็ต้องจับจ่ายออกไป เช่นนั้นใยต้องไปสิ้นเปลืองพลังงานหามาตั้งแต่ต้น”
ชายหนุ่มกล่าวแย้ง
“อ้อ” สุดท้ายอาจารย์เซนพยักหน้ารับรู้ แต่ยังคงกล่าวว่า “
ท่าทางข้าต้องรีบไปหาเชือกมามอบให้เจ้าสักเส้นหนึ่งแล้ว”
“เหตุใดต้องมอบเชือกให้ข้า?” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัยใจ
“ให้เจ้าผูกคอตาย” อาจารย์เซนตอบ
ชายหนุ่มได้ยินก็ถามกลับไปด้วยความโมโหว่า “ท่านอยากให้ข้าตายหรือไง?”
อาจารย์เซนจึงตอบว่า
“ถูกแล้ว เพราะคนเราทุกคนล้วนต้องตาย หากคิดตามตรรกกะของเจ้า ในเมื่อสุดท้ายต้องตายแล้ว
“ถูกแล้ว เพราะคนเราทุกคนล้วนต้องตาย หากคิดตามตรรกกะของเจ้า ในเมื่อสุดท้ายต้องตายแล้ว
คนเราจะเกิดมาทำไม และหากเป็นเช่นนั้นก็แปลว่าการมีชีวิตมีตัวตนของเจ้าในวันนี้นับเป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์ด้วย เช่นกัน ก็ในเมื่อเปล่าประโยชน์แล้ว ใยไม่รีบผูกคอตายไปเสียเลยเล่า?”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น