2554-07-31

ความตาย...เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต‏



คล้ายว่าเข้าใจ...ชีวิต

ผมกำลังเดินทาง
เด็กทารกส่งเสียงร้อง
ชายชราเดินสวนกัน
ได้ยินเสียงร้องครวญครางของคนเจ็บป่วย
จากนั้น...
เขาก็ตาย



...................................

ครั้งหนึ่งผมเคยเป็นเด็กทารก
เติบโต และเริ่มแก่ชรา
ผมเริ่มเจ็บป่วย สังขารผุผัง
วันเวลาผ่านไป
แน่นอนที่สุด
แล้วผมก็ต้องตาย



..................................

แม้ชีวิตจะเป็นสูตรสำเร็จ
มีคำตอบสุดท้ายที่ไม่แตกต่างกัน
แต่วิธีใช้ชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันแน่นอน
สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่เป้าหมายที่ทุกคนต้องไปถึง
แต่อยู่ที่เรื่องราวระหว่างการเดินทาง.



............................................................

เธอจงระวังความคิดของเธอ
เพราะความคิดของเธอ จะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ
เพราะความประพฤติของเธอ จะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ
เพราะความเคยชินของเธอ จะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ
เพราะอุปนิสัยของเธอ จะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต

: คำสอนของหลวงปู่ชา สุภัทโท
จาก : Internet and Forward mail


.........................................................

เพลงดาบขั้นสุดยอด....
ขั้นแรกของเพลงดาบ
ต้องการความเป็นหนึ่งเดียว
ระหว่างคนและดาบ
คนคือดาบ....ดาบคือคน
แม้แต่หญ้าในมือ ยังใช้เป็นอาวุธได้
...ขั้นที่สองของเพลงดาบ
คือ ดาบต้องอยู่ที่ใจ
แม้เพียงมือเปล่า ยังฆ่าได้ในระยะหนึ่งร้อยก้าว
ด้วยดาบที่มองไม่เห็น
....ขั้นสูงสุดของเพลงดาบ
ไม่ต้องใช้ดาบแม้แต่น้อย
ไม่ต้องใช้ทั้ง “มือ” และ “หัวใจ”
มันคือ การมองทุกอย่างอย่างถ่องแท้
....มันไม่ใช่ “การฆ่า”
แต่มันคือ “สันติ”

ภาพยนตร์ : HERO



...............................................

ผมยืนยันมาตลอดเวลา
ว่ามนุษย์ไม่ได้เกิดมาทำอะไรอย่างเดียว
ยังมีมิติอีกมากให้เราไปค้นหา
มนุษย์เกิดมาเพื่อแสวงหาความหมายที่แท้จริง
ว่าชีวิตคืออะไร ?
ไม่ว่ากระบวนการนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตามที
ผมก็ไม่อยากรอจนอายุห้าสิบ
มีเงินรวยแล้วจึงเดินทางไปท่องเที่ยว
ผมว่าการค่อยๆทำสิ่งที่ตนรัก
ไปพร้อมๆกับการสร้างความมั่นคงทางชีวิตนั้นเป็นไปได้
ไม่ต้องรอจนเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง
แล้วค่อยกลับไปทำสิ่งที่ตนรัก
....คุณประมาทกับชีวิตขนาดนั้นไม่ได้

: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา (นักเขียน)
นิตยสาร : สุดสัปดาห์ ปีที่ 23 ฉบับที่ 531


.......................................................

ทุกสิ่งทุกอย่าง...ล้วนมีฤดูกาล
และมีเวลาสำหรับจุดประกายปรารถนาทั้งปวง
ภายใต้แผ่นฟ้า...
มีเวลาสำหรับเกิด และมีเวลาสำหรับตาย
มีเวลาสำหรับหว่านพืชพันธุ์ และมีเวลาสำหรับการเก็บเกี่ยว
มีเวลาสำหรับการทำลาย และมีเวลาสำหรับการสร้างสรรค์
มีเวลาสำหรับความโศกเศร้า และมีเวลาสำหรับยินดี
มีเวลาสำหรับได้รับ มีเวลาสำหรับสูญเสีย
มีเวลาสำหรับทะนุถนอม มีเวลาสำหรับผลักไส
มีเวลาสำหรับรัก มีเวลาสำหรับเกลียด
มีเวลาสำหรับสงคราม มีเวลาสำหรับสันติภาพ

: บทที่ 3 ของคัมภีร์ไบเบิ้ลโบราณ ชื่อ “อิคคลีเซียสตีส”
หนังสือ : วิธีชะลอความแก่
เขียนโดย : โดโรธี คาร์เนกี
แปลโดย : กองทุนอนุรักษ์และเผยแพร่หนังสือไทย


.............................................................

ชีวิตก็เหมือนทรัมเป็ต
หากเธอไม่เป่าลมเข้าไป
ก็จะไม่มีเสียงอะไรออกมา

: ดับเบิลยู.ซี.แฮนดี้ (นักดนตรีชาวอเมริกัน)

หนังสือ : ข้อคิดเติมหัวใจคุณครู
รวบรวมโดย : Charles McGuire and Diana Abitz
แปลโดย : พิศวาส ปทุมุต์ตรังษี


...............................................................

มีมรดกถาวรเพียงสองสิ่ง
ที่เราหวังสืบทอดให้กับลูกหลานของเรา
สิ่งแรก คือ รากเหง้า
สิ่งที่สอง คือ ปีก...สำหรับโบยบิน

: ฮอดดิ้ง คาร์เตอร์ ที่ 3 (นักการเมืองชาวอเมริกัน) 

หนังสือ : ข้อคิดเติมหัวใจคุณครู
รวบรวมโดย : Charles McGuire and Diana Abitz
แปลโดย : พิศวาส ปทุมุต์ตรังษี



...........................................................

เรามีเทคโนโลยี มีเงิน
มีความสะดวกสบายแทบทุกอย่าง
แต่เหมือนเราไม่เคยรู้สึกเต็มอิ่ม
การสื่อสารยิ่งก้าวหน้า
ทว่านับวันผู้คนกลับยิ่งเปลี่ยวเหงา
เท่าที่นึกออก...
ผมคิดว่ามีสาเหตุ 2 อย่าง
คือ ไม่วิ่งตามโลกและคนอื่นมากเกินไป
หรือไม่ก็หมกมุ่นกับตัวเองมากเกินไป
แปลก, สองพฤติกรรมนี้มีผลเหมือนกัน
คือทำให้ไม่รู้จักตัวเอง

: ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา (นักเขียน)

หนังสือ : Open diary 
เขียนและเรียบเรียงโดย : วรพจน์ พันธุ์พงศ์


...............................................................

ชีวิตคืออะไร ?

ชีวิต คือ ของขวัญ...เธอจงรับมันเอาไว้
ชีวิต คือ การผจญภัย...เธอจงออกไปรับมือกับมัน
ชีวิต คือ ความลี้ลับ...เธอจงทำให้กระจ่างแจ้ง
ชีวิต คือ เกม...เธอจงลงไปเล่น
ชีวิต คือ การต่อสู้...เธอจงไปเผชิญหน้ากับมัน
ชีวิต คือ ความงาม...เธอจงเชิดชู ยกย่อง สรรเสริญ
ชีวิต คือ ปมปริศนา...เธอจงแก้ให้ออก
ชีวิต คือ โอกาส...เธอจงฉวยเอาไว้
ชีวิต คือ ความเศร้า...เธอจงลิ้มรสไว้เป็นประสบการณ์
ชีวิต คือ บทเพลง...เธอจงขับขานให้สำราญใจ
ชีวิต คือ เป้าหมาย...เธอจงก้าวไปให้ถึง
ชีวิต คือ พันธกิจ...เธอจงกระทำให้ลุล่วง

: เดวิล แม็กนัลลีย์
จาก : Even Eagles Need a Push

หนังสือ : ข้อคิดเติมหัวใจคุณครู
รวบรวมโดย : Charles McGuire and Diana Abitz
แปลโดย : พิศวาส ปทุมุต์ตรังษี


......................................................

จริงๆแล้ว..ทุกคนเป็นนักบันทึก
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่
มนุษย์ล้วนบันทึกความเป็นไปต่างๆโดยอัตโนมัติ
บ้างบันทึกด้วยตัวหนังสือ
บ้างบันทึกด้วยเสียง
บ้างบันทึกด้วยภาพนิ่ง
บ้างบันทึกด้วยภาพเคลื่อนไหว
บ้างบันทึกด้วยสมอง
บ้างบันทึกด้วยหัวใจ
บ้างบันทึกด้วยความทรงจำ
ทุกคนจึงมีไดอารี่แระจำตัวอย่างน้อยหนึ่งเล่ม
ผมเรียกไดอารี่เล่มนั้นว่า – ชีวิต

คำนำโดย : นราวุธ ไชยชมภู 

หนังสือ : Open diary 
เขียนและเรียบเรียงโดย : วรพจน์ พันธุ์พงศ์



.....................................................

เราไม่รู้หรอกว่า เรามีชีวิตอยู่นานเท่าไร
เราไม่รู้หรอกว่า เราเกิดกี่ครั้ง
แต่ถ้าเราทำมันให้ดีที่สุด
“ครั้งเดียว” ก็มีค่าพอ
ชีวืต “ครั้งนี้” เท่านั้นที่เรารู้
และอยู่ในกำมือเรา


หนังสือ : วันนี้คือวันแรก...ของวันที่เหลืออยู่
เขียนโดย : ต้นกล้า นัยนา



................................................................

เราไม่จำเป็นต้องวิ่งตามโลกที่หมุนเร็ว
ใครมีแรงก็วิ่งกันไป
พูดจริงๆว่าผมไม่รู้สึกว่าใครผิดใครถูก
แต่ใครชอบแบบไหน หรือถนัดอะไรก็ทำไป
ผมไม่ชอบวิ่ง...ผมก็จะเดินไปช้าๆ
และน่าจะเหนื่อยน้อยกว่า

: ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ (ช่างภาพ,นักเขียน)

หนังสือ : เสียงในความทรงจำ
เขียนและเรียบเรียงโดย : วรพจน์ พันธุ์พงศ์



...........................................................

รู้มั้ยว่า....อะไรมีค่าที่สุดในตัวคนเรา
ฉันอาจไม่รู้ว่า 
มีกี่คนที่ยอมเสียสละชีวิตของพวกเขาเพื่อนาย
แต่ฉันเชื่ออย่างแน่ใจว่า
คงมีหลายคนที่ยอมตายเพื่อฉัน...
“ความไว้ใจ” คือ สิ่งสำคัญ
ความไว้ใจไม่สามารถเอากลับคืนมาได้
เมื่อนายสูญเสียมันไปแล้ว

ภาพยนตร์ : Rikidozan



..........................................................

วีรบุรุษ....
ไม่จำเป็นต้องเกษียณตัวเอง

ภาพยนตร์ : Rikidozan



...........................................................

เซียนหมากรุกที่แท้จริง...
ไม่ได้เดินหมากบนกระดาน
หากแต่เดินหมากบนหัวใจคู่ต่อสู้
เดินหมากในรูปแบบ
ที่ทำให้หมากของฝ่ายตรงข้ามถูกบังคับเดิน
หมากของฝ่ายตรงข้ามจะถูกเดิน
โดยไม่รู้สึกว่าถูกเราบังคับ
กินหมากของฝ่ายตรงข้าม
โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกหรือเสียเปรียบเรา
ทำให้ฝ่ายตรงข้ามแพ้ โดยที่เขาแค่รู้สึกว่าเดินไม่ระวังเอง
แค่เผลอไผลพลาดพลั้ง
และทำให้ฝ่ายตรงข้ามแพ้เรา
ด้วยความรู้สึกว่า เขาไม่น่าจะแพ้เรา
ยังมีโอกาสชนะเรา....
และทำให้เขาไม่รู้สึกว่า “เรา” ซึ่งเป็นคู่แข่งของเขานั้น
....เป็นเซียนหมากรุกซึ่งไม่มีทางแพ้ใครได้

: ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน 
จาก : Internet and Forward mail


................................................................

หนึ่งในหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิต
ที่คุณมั่นใจได้ก็คือ
มีความเปลี่ยนแปลงทุกๆครั้ง
ที่คุณกล่าวคำว่า “สวัสดี”
ซึ่งมันหมายถึงว่า ในไม่ช้า...
คุณก็ต้องกล่าว “คำอำลา”
กับใครสักคนหนึ่ง

ภาพยนตร์ : Elsinore


............................................................

ชีวิตที่ยิ่งใหญ่...
เริ่มต้นด้วยความใฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่เสมอ

หนังสือ : นิทานสอนนักธุรกิจอิสระ
เขียนโดย : ตาเชยและลุงเปิ่น



................................................................

ในการใช้ชีวิต การลืมไม่ใช่สิ่งเลวร้าย
แต่การลืมเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง 
หากเป็นไปในทางปล่อยวาง และ ลดตัวตน
ลืมสิ่งที่ควรลืม ทั้งอดีตที่น่าเศร้า
ประสบการณ์ที่เจ็บปวด
หรือกระทั่งความสุขเมื่อวันวาน
เพราะมันจะทำให้ปัจจุบันน่าเบื่อเกินไป
จนทนอยู่ได้ยาก
ถึงที่สุด ก็ควรจะลืมว่าตัวเองเป็นใคร
เพราะเราไม่ใช่ใคร
นอกจากเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติเท่านั้น
ที่จะสามารถบอกได้ว่า....
ตัวเองเป็นใคร

เขียนโดย : ภัทเทกะ รัตตา

นิตยสาร : เพื่อนไร้พรมแดน ฉบับที่ 4



..................................................................

มีปรมาจารย์อินเดียท่านหนึ่งกล่าวว่า
ชีวิต คือ ประสบการณ์อันน่าพิศวงในการดำรงชีวิต
แต่ชีวิตไม่ใช่ปัญหาที่ต้องคอยแก้
หลายๆคนคิดว่า
ชีวิต คือ ปัญหาที่พวกเราต้องแก้ไข
แต่จริงๆแล้ว...ชีวิตมันลึกลับ
ประกอบด้วยหลายๆสิ่งอยู่ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม...ชีวิตคืออะไร ?
มันก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคน
ชีวิต ก็คือ ชีวิต
จริงๆแล้ว...
คำถาม...ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเสมอไป
คำตอบ คือ ไม่มีคำตอบ

: กิล เอลอน (นักแสดง , อาจารย์เซนชาวอิสราเอล)
แปลโดย : ผกามาศ พูสุรพงษ์

นิตยสาร : Open ฉบับที่ 45



..............................................................

คนเรามีอยู่สองอย่าง
มีชีวิต กับ ใช้ชีวิต
คนที่มีเวรมีกรรม
คือ คนที่มีชีวิต....แต่ไม่ได้ใช้ชีวิต

: วิยะดา โอลส์สัน (นักเขียน)

นิตยสาร : ดิฉัน ฉบับที่ 678

................................................................



การค้นพบเป้าหมายในชีวิต
ยิ่งใหญ่กว่าการเดินทางรอบโลก

: ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน
จาก : Internet and Forward mail 



..............................................................

เราเกิดมาเพื่อสิ่งใด ? 

: ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน
จาก : Internet and Forward mail 



.............................................................

ทุกวัน...
เราอยู่เพื่ออะไร ?

หนังสือ : ภาพของฉัน ฝันของเธอ
เรื่องและภาพโดย : ชุมพล อักพันธานนท์



............................................................

ห้องเรียนที่ผมสอน
มีเด็กสองคนที่ผมไม่รู้ว่าจะห่วงใครดี
คนหนึ่ง...เรียนเก่งมาก สอบได้แต่ที่ 1 ในห้อง
แต่ไม่ค่อยคุย หรือเล่นกะใคร
เพราะกลัวเสียการเรียน
หนึ่งคน..ก็เอาแต่เล่นทุกอย่าง
ยกเว้นการเรียน ดื้อ ซน
แต่ก็มาเรียนทุกครั้ง

หนังสือ : ภาพของฉัน ฝันของเธอ
เรื่องและภาพโดย : ชุมพล อักพันธานนท์



............................................................

ชีวิต...
คือ ทุกวัน

: สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ (ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์,นักเขียน)

หนังสือ : เช็คหัวใจ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ
เรียบเรียงโดย : วรพจน์ พันธุ์พงศ์



........................................................

ชีวิต...
ไม่แน่นอน

หนังสือ : เข็มทิศชีวิต
เขียนโดย : ฐิตินาถ ณ พัทลุง

...............................................................



เงิน....
ไม่ใช่คำตอบของชีวิต

คำนิยมโดย : พระไพศาล วิสาโล

หนังสือ : เข็มทิศชีวิต
เขียนโดย : ฐิตินาถ ณ พัทลุง



...................................................................

ชีวิต...
คือ การก้าวไป

: ชาลอต โทณวณิก (นักการธนาคาร)

นิตยสาร : Lips ปีที่ 6 ฉบับที่ 18



...................................................................

อย่าไปคิดว่าชีวิตผมมีแต่ความสำเร็จ

: ตัน ภาสกรนที (นักธุรกิจ)

หนังสือ : Revolution
เรียบเรียงโดย : ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย
และ อาทิตย์ โกวิทวรางกูร



.................................................................

ผมว่าชีวิตคนเรา เหมือนกระดาษทิชชู่
จะมีอยู่ช่วงชีวิตหนึ่ง ซึ่งเราจะซึมซับไปหมด
โดยไม่รู้ว่าควรจะบิดอะไรทิ้งบ้าง

: ภาสกร ประมูลวงศ์ (นักเขียน)

นิตยสาร : สุดสัปดาห์ ปีที่ 22 ฉบับที่ 520



...............................................................

ผมไม่กลัวการเป็นคนเชย
ไม่กลัวการเป็นคนตกกระแส
แต่ผมกลัว....ถ้าเราไม่รู้จักตัวเอง

: มนต์ชีพ ศิวะนางกูร (นักร้อง , อาจารย์สอนดนตรี)

นิตยสาร : KID & Family ปีที่ 9 ฉบับที่ 104



..................................................................

สำหรับข้าพเจ้า
ทั้งหมดที่ข้าพเจ้ารู้ ก็คือ...
ข้าพเจ้าไม่รู้อะไรเลย

: Socrates (นักปรัชญากรีกโบราณ)

หนังสือ : คติพจน์ของบุคคลสำคัญ
แปลโดย : สุภัทร ชัยวัฒนพันธุ์



.............................................................

เมื่อคุณเรียนรู้ว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างไร
ในสถานการณ์ที่อันตราย
เวลานั้นคุณจะไม่มีความกลัวตาย
และเมื่อคุณไม่กลัวที่จะตาย
คุณจะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระ...
บางคนบอกผมว่า เขาเล่นกีฬาที่ต้องใช้ความเสี่ยงสูงซึ่งอันตรายมาก
....ไม่หรอก....แต่ถ้าคุณขับรถไปเจอคนเมา นั่นซิ...อันตราย
อะไรที่คุณเรียนรู้มันจนถ่องแท้แล้ว จะไม่เป็นอันตราย
แล้วหลังจากนั้น คุณจะ Free to Live (มีชีวิตที่เป็นอิสระ)
นี่เป็นจุดหมายที่ยิ่งใหญ่เหมือนภูเขา
เมื่อคุณมองเห็นภูเขา... 
คุณต้องวางแผนเพื่อจะไปให้ถึงยอดเขาให้ได้
และกลับมาได้อย่างปลอดภัย

: Tom Claytor (นักบินอาชีพ)

นิตยสาร : Peak Magazine ปีที่ 1 ฉบับที่ 1



..........................................................

เรามีชีวิตเพียงครั้งเดียว
แต่ถ้าเราใช้มันได้อย่างถูกต้อง
....ครั้งเดียวก็พอแล้ว

: สุภาษิตอังกฤษ

หนังสือ : คติพจน์ของบุคคลสำคัญ
แปลโดย : สุภัทร ชัยวัฒนพันธุ์



.............................................................

ถ้าเกิดรู้ว่าตัวเราเองเป็นหมา
ก็เห่าอย่างหมา ยืนอย่างหมา
ไม่ต้องไปวางฟอร์มอย่างสิงโต ทำเสียงโฮกๆ
เพราะนั่น....ไม่ใช่ตัวเรา

: วิกรม กรมดิษฐ์ (นักธุรกิจ)

นิตยสาร : GM Magazine ปีที่ 19 ฉบับที่ 295



.....................................................................

อย่าปล่อยให้ชะตากรรม
ควบคุมจังหวะระบำของชีวิต
โลก คือ ละครตลก
ที่หลอกล่อให้เราตกลงไปในความเศร้า
ขว้างทิ้งความปวดร้าว
ควบขับฝูงม้าแห่งกาลเวลา
ไปตบแต่งแสงเงาให้ขอบฟ้า

..........................

ลมหนาวนั้นยะเยือกเช่นไร
ใครเล่าจะเข้าใจ
เปลวไฟนั้นเริงร้อนเช่นไร
ใครเล่าจะหยั่งรู้
เช่นความลี้ลับ ที่นั่งสนทนากับชีวิต
ประตูที่หับสนิท
ไฉนเลยจะเปิดเผยปริศนา



............................

อย่าเลี่ยงหลบ
อย่าเลี่ยงหลบ
จงสบตากับโชคชะตา !

บางส่วนจากบทกวี : ผู้ตกแต่งแสงเงาให้ขอบฟ้า
เขียนโดย : ศิริวร แก้วกาญจน์

นิตยสาร : Movie Extra ปีที่ 2 ฉบับที่ 30








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

2leep.com