2554-07-30

ความในใจ







ตอนที่ฉันยังเป็นลูกหมาตัวน้อย ฉันให้ความบันเทิงแก่นายและทำให้นายหัวเราะ
นายเรียกฉันเป็นลูกของนาย และถึงแม้ฉันจะเคี้ยวรองเท้านายเล่นไปหลายคู่
ทำลายหมอนอิงไปอีกหลายใบ เราก็กลายเป็นเพื่อนซี้กัน
ไม่ไหร่ที่ฉันทำตัว "ไม่ดี" นายก็จะสั่นนิ้วใส่ฉัน แล้วพูดว่า
"ทำลงไปแบบนี้ได้ยังไงกัน" แต่ไม่นานนายก็จะยกโทษให้
แล้วจับฉันหงายท้องเกาพุงให้ฉัน
ตอนที่นายฝึกให้ฉันถ่ายเป็นที่ เราใช้เวลานานหน่อย เพราะนายงานยุ่งมาก
แต่เราก็ช่วยกันร่วมมือทำจนสำเร็จ
ฉันจำได้ถึงคืนที่ฉันนอนซุกอยู่บนที่นอนของนาย ฟังนายพูดถึงความลับ
และความฝันของนาย ตอนนั้นฉันเชื่อว่า
ชีวิตคงไม่สมบูรณ์เพอร์เฟ็คไปได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
เราไปเดินเล่นกันนานๆ ไปนั่งรถเที่ยวกัน แล้วก็ไปหยุดกินไอติมกัน
(แต่ฉันได้กินแต่โคน เพราะนายบอกว่า "ไอติมนี่ไม่ดีสำหรับหมา")
และฉันก็นอนงีบอาบแดดซะนานรอให้นายกลับบ้านมาเมื่อหมดวันนึง
แล้วนายก็ค่อยๆใช้เวลาทำงานการของนายมากขึ้นเรื่อยๆ
และใช้เวลาค้นหาคู่ที่เป็นคนเหมือนนายมากขึ้น
ฉันรอนายอย่างอดทน ปลอบใจนายเมื่อนายอกหัก และ ผิดหวัง
ไม่เคยตำหนินายเมื่อนายตัดสินใจผิดพลาด
และกระโดดโลดเต้นดีใจทุกครั้งที่นายกลับบ้านหรือกำลังมีความรัก
หญิงคนนั้น ซึ่งตอนนี้คือภรรยาของนาย ไม่ใช่คนที่รักหมานัก
แต่ฉันก็ยินดีต้อนรับเธอคนนั้นเข้ามาในบ้านของเรา พยายามแสดงความรักต่อเธอ
และเชื่อฟังเธอ ฉันมีความสุขเพราะนายมีความสุข
แล้วก็มีทารกมนุษย์ขึ้นมา ฉันแบ่งปันความตื่นเต้นกับเธอ
ฉันทึ่งในเนื้อตัวสีชมพูและกลิ่นของทารก ฉันอยากดูแลเจ้าตัวน้อยด้วย
แต่เธอคนนั้นและนายกังวลว่าฉันจะทำร้ายหนูน้อย
ฉันจึงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องอื่น หรือในกรงหมา โอ
ฉันอยากรักลูกของนายเหลือเกิน แต่ตอนนี้ ฉันได้กลายมาเป็น "นักโทษแห่งรัก" เสียแล้ว
เมื่อลูกๆของนายเริ่มโตขึ้น ฉันก็กลายเป็นเพื่อนของพวกเขา
พวกเขาเกาะเกี่ยวขนของฉันและดึงตัวเองขึ้นยืนบนขาที่ยังไม่แข็งดี
เอานิ้วจิ้มตาฉัน และสำรวจในรูหูของฉัน จูบฉันที่จมูก
ฉันรักทุกสิ่งเกี่ยวกับลูก ๆ นาย และสัมผัสจากพวกเขา
เพราะฉันแทบไม่ได้รับสัมผัสจากนายเลยตอนนี้
ฉันจะปกป้องลูกๆนายด้วยชีวิตฉันเลยทีเดียวถ้าจำเป็น
ฉันแอบไปนอนเตียงกับลูกๆนาย ฟังเขาพูดถึงความกังวล และความฝันของเขา
และเราก็นอนรอฟังเสียงรถของนายกลับบ้านด้วยกัน
เมื่อก่อนนั้น เวลามีใครถามว่านายมีหมาหรือเปล่า
นายจะอวดรูปฉันในกระเป๋าสตางค์นายและเล่าเรื่องของฉันให้คนอื่นๆฟัง
แต่ไม่กี่ปีให้หลังนี่ นายแค่ตอบว่า "มี" เท่านั้น แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูด
ฉันกลายสภาพจาก "หมาของนาย" เป็นแค่ "หมาตัวหนึ่ง"
และนายก็เหนื่อยหน่ายที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเพื่อตัวฉัน
ตอนนี้ นายได้งานใหม่ในตัว เมือง
และนายกับครอบครัวของนายจะย้ายไปอยู่อพาทเม้นต์ใหม่ที่ห้ามเลี้ยงสัตว์
นายตัดสินใจถูกสำหรับ "ครอบครัว" ของนาย แต่ก็เคยมีช่วงเวลาที่
ฉันเป็นครอบครัวเดียวเท่านั้นของนาย
ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้ไปนั่งรถเล่น จนกระทั่ง
เรามาถึงที่สถานสงเคราะห์สัตว์
กลิ่นที่โชยมาเป็นกลิ่นของหมาและแมว กลิ่นของความกลัว ความสิ้นหวัง
นายกรอกแบบฟอร์มและพูดว่า "ผมรู้ว่าคุณจะหาบ้านดีๆให้เจ้านี่ได้"
พวกเจ้าหน้าที่ยักไหล่แล้วจ้องหน้าเธอด้วยสายตาเจ็บปวด
พวกเขาเข้าใจดีถึงความเป็นจริงที่หมาวัยขนาดนี้ต้องเผชิญ
แม้แต่ตัวที่มี "แบบฟอร์ม"
นายต้องแกะนิ้วลูกชายของนายออกจากปลอกคอของฉัน ในขณะที่หนูน้อยร้องลั่น
"ไม่นะพ่อ ได้โปรดอย่าให้เขาเอาหมาของฉันไปเลย!"
ฉันห่วงลูกของนาย และห่วงว่านี่นายกำลังสอนบทเรียนอะไรให้ลูกนายกันแน่
บทเรียนเกี่ยวกับ มิตรภาพ และความซื่อสัตย์
เกี่ยวกับความรักและความรับผิดชอบ
และเกี่ยวกับความเคารพที่ควรมีต่อทุกชีวิต นายตบหัวลาฉัน หลบตาฉัน
และปฏิเสธไม่รับปลอกคอและสายจูงของฉันคืนอย่างสุภาพ
นายมีกำหนดเวลาเส้นตายของงานที่ต้องทำ
และฉันก็มีกำหนดเวลาเส้นตายของฉันเหมือนกัน
เมื่อนายจากไป ผู้หญิงน่ารักสองคนก็พูดว่า
นายคงจะรู้มาตั้งนานหลายเดือนแล้วเรื่องการโยกย้าย
แต่ก็ไม่ได้พยายามที่จะหาบ้านดี ๆ ให้ฉันอยู่ พวกเขาส่ายหัว แล้วพูดว่า
"ทำลงไปแบบนี้ได้ยังไงกัน"
พวกเจ้าหน้าที่เอาใจใส่พวกเรามากเท่าที่ตารางทำงานวุ่น ๆ ของเขาจะอนุญาต
แน่นอนเขาให้อาหารพวกเรา แต่ฉันกินอะไรไม่ลงมาหลายวันแล้ว ในตอนแรก
เวลาใครเดินผ่านคอกของฉัน ฉันจะรีบวิ่งไปด้านหน้า หวังว่าอาจจะเป็นนาย
ว่านายเปลี่ยนใจ และที่ผ่านมานั้นเป็นแค่ฝันร้าย
หรือฉันหวังเพียงว่าอย่างน้อยคนที่เดินมาจะเป็นคนที่สนใจใส่ใจ
ใครก็ได้ที่จะมาช่วยฉันออกไป
เมื่อฉันเข้าใจว่าฉันไม่สามารถจะไปแข่งขันกับพวกลูกหมาเล็ก ๆ ที่แข่งกันแย่งความสนใจอย่างมีความสุข
อย่างไม่รับรู้แม้แต่อนาคตของตัวเอง ฉันก็แอบหลบไปอยู่ในมุมไกล ๆ และเฝ้ารอ
ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าหน้าที่หญิงเมื่อเธอเข้ามาหาฉันตอนเย็น
และฉันก็เดินเตาะแตะไปกับเธอตามระเบียงเข้าไปในห้องแยกอีกห้องหนึ่ง
ห้องที่เงียบสงบ
เธออุ้มฉันไปวางบนโต๊ะ แล้วเกาหูให้ฉัน บอกให้ฉันไม่ต้องกังวลอะไร
หัวใจฉันเต้นแรงจากการเฝ้ารอในสิ่งที่กำลังจะมาถึง
แต่ในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกโล่งใจ
หมดเวลาสำหรับนักโทษแห่งรักแล้ว เพราะธรรมชาติของฉัน
ฉันเป็นห่วงเธอมากกว่า ภาระที่เธอต้องรับมันหนักหนาเหลือเกิน
ฉันรู้เหมือนอย่างที่ฉันรู้จักความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของเธอ
เธอค่อย ๆ รัดสายยางรอบ ๆ ขาหน้าของฉันและน้ำตาของเธอก็ไหลลงอาบแก้ม
ฉันเลียมือเธอเหมือนกันที่ฉันเคยปลอบใจนายเมื่อหลายต่อหลายปีมาแล้ว
เธอใส่เข็มฉีดยาเข้ามาในเส้นเลือดของฉันอย่างชำนาญ
เมื่อฉันรู้สึกถึงเส้นสายเหล่านั้นและของเหลวเย็นๆไหลเข้ามาในตัวของ
ฉันนอนลงอย่างง่วง ๆ มองไปในตาที่มีแววใจดีของเธอ และพึมพำเบา
"ทำลงไปแบบนี้ได้ยังไงกัน" เธอคงเข้าใจที่หมาอย่างฉันพูด เธอจึงพูดว่า
"ฉันเสียใจจริงๆ" แล้วเข้ามากอดฉัน พร้อมกับอธิบายอย่างรวดเร็วว่า
มันคืองานของเธอที่จะทำให้แน่ใจว่า ฉันจะได้ไปอยู่ในที่ ๆ ดีกว่านี้
ที่ ๆ ฉันจะไม่ถูกเมินเฉย ทอดทิ้ง หรือทำร้าย
หรือที่ ๆ ฉันต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
ให้ไปอยู่ในที่ ๆ เต็มไปด้วยความรักและแสงสว่าง
ที่ ๆ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโลกใบนี้
และด้วยพลังเฮือกสุดท้ายของ ฉันพยายามสื่อสารให้เธอได้รู้โดยการกระดิกหาง
ให้เธอได้รู้ว่า ที่ฉันบอกว่า "ทำลงไปแบบนี้ได้ยังไง" นั้น ไม่ได้หมายถึงเธอ
แต่หมายถึง นาย เจ้านายที่รักของฉันที่ฉันกำลังนึกถึง
ฉันจะคิดถึงนายและรอนายอยู่ตลอดไป ฉันก็ได้แต่ขอให้ทุกคนในชีวิตของนาย
จงมีแต่ความซื่อสัตย์ต่อนายต่อไปให้มากๆตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

2leep.com