2554-07-30

กบน้อยแสวงหาแอ่งน้ำใหม่ ตอนที่ 3 - หัวใจของนักเริ่มต้น


การตระหนักรู้จะบังเกิดในทันที่ที่จิตใจสงบลง

หลังจากที่นกฮูกตอบตกลงที่จะช่วยชี้แนะหนทางเพื่อแสวงหาตัวเอง (และแอ่งน้ำใหม่)ให้ปิงแล้ว เจ้ากบน้อยก็มิรอช้ารีบกระโดดตามหลังว่าที่อาจารย์ไปในทันทีด้วยความสำรวมยิ่งที่กบอย่างเขาจะทำได้

สำหรับปิงแล้วการที่จะพยายามทำจิตให้สงบในขณะที่ท้องของเขาส่งเสียงรบกวนอยู่ตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องที่ลำบากลำบนยิ่งนัก เขาไม่ได้ทานอะไรมาสักพักแล้ว ประกอบกับการที่เขาใช้พลังที่มีกระโดดขึ้นลงเพื่อแสดงความตั้งใจจริงที่ผ่านมาทำเขารู้สึกหิวอย่างจับใจ แต่จะให้เขาเอ่ยปากขออนุญาตินกฮูกเขาก็มิอาจทำได้เพราะเขาเกรงว่านกฮูกเฒ่าจะโกรธเอาแล้วบินจากไป ปล่อยให้เขาผจญชะตากรรมอย่างโดดเดี่ยวอย่างที่ผ่านมา ไม่เอาแล้ว ปิงคิดสู้ทนหิวต่อไปยังดีเสียกว่า

ในความเงียบนั้น ปิงได้แต่กระโดดตามนกฮูกไปในขณะที่สายตายังคงมองหาเหล่าแมลงต่างๆที่บังเอิญผ่านเข้ามาในระหว่างทางเดินนั้นเป็นอาหาร เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงนกฮูกก็ยังไม่มีท่าทีที่จะหยุด ปิงจึงเอ่ยปากถามว่าจุดหมายของการเดินในคืนนั้นอยู่ที่ใด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เขาจึงขอให้นกฮูกบอกวัตถุประสงค์ของการเดินทางในคืนนั้นให้ฟังเมื่อถึงที่หมายแล้ว

"ได้..ฉันจะอธิบายตอนนี้เลยก็แล้วกัน เพราะดูเหมือนเธอจะไม่ได้อะไรจากการเดินกับตัวเองในวันนี้"

"โอ้ ขอโทษครับ" ปิงรีบกล่าว "คำขอโทษไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับฉัน เธอจะต้องใส่ใจกับความคิดของตัวเอง ทำใจให้สงบนิ่งจากสิ่งต่างๆรอบตัว มองเข้าไปให้ลึกยังจิตใจของตัวเอง พิจารณาทุกๆความคิดที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นความชอบหรือไม่ชอบ ความสับสนของจิตจะสงบลงเมื่อมันได้พบกับสิ่งที่ใฝ่ฝันหา ในที่สุดเธอจะรู้ว่าการเดินทางของชีวิตคือการเคลื่อนที่ของจิตกลับไปในที่ที่มันอยากอยู่" นกฮูกหยุดพูด หลับตาลงแล้วถามปิงว่า "เธอได้ยินไหม เธอได้ยินเสียงของหัวใจตัวเองหรือไม่? ถ้าหากยังไม่ได้ยิน ลองมองให้ลึกลงไปอีก ให้เปิดใจต้อนรับพลังแห่งจิต เรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในพลังอันแกร่งกล้าของมัน ในขณะที่ได้ยินเสียงเรียกร้องแห่งจิต จงตามมันไป เพราะจิตจะรู้ว่าจะพาเธอไปที่ใด" ปิงหลับตาลงพยายามที่จะทำใจให้นิ่งแต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำได้โดยง่ายดายนัก

"ความฟุ้งซ่านยังคงเวียนวนอยู่ในใจเธอ" นกฮูกกล่าว "จงมองลงไปในความว่างเปล่า ปล่อยวางในสิ่งที่เธอเคยรู้ เธอต้องทำใจให้ว่างเปลาเพื่อที่จะได้เปิดโอกาสต้อนรับชะตาชีวิตที่แท้จริง เมื่อเปิดช่องว่างไว้ เธอจึงจะมีโอกาสรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา เธอจึงจะได้ค้นพบหัวใจของนักเริ่มต้น"

"แต่ตอนนี้เธอจะต้องเอาใจจดจ่อในสิ่งที่เธอทำ ในตอนเริ่มต้นมันจะใช้ความพยายามอย่างมากมาย แต่เมื่อฝึกฝนบ่อยๆเธอจะรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายดาย" "เรียนรู้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวในทุกขณะ เมื่อทำได้เธอจะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลและมีความสุขกับความมั่งคั่งที่จักรวาลมอบให้" ปิงมองดูนกฮูกเฒ่าด้วยสายตาแห่งความชื่นชมในสติปัญญาของผู้ที่ผ่านโลกมาก่อน

ปิงนั่งลงในความเงียบสงบ เขาลองเริ่มต้นอีกครั้งด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ นกฮูกเชื่อว่าในความมืดมนนั้น ปิงจะค้นพบการตื่นของจิตอย่างแท้จริง ปิงหลับตาลง ไม่เพียงแค่วิญญาณที่ต้องการการค้นพบ จิตและใจของเขาก็แสวงหาทิศทางด้วยเช่นกัน จิตของเขาเริ่มไขว้เขวอีกแล้ว เขารู้ดีว่าคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่จนกว่าเขาจะทำได้ตามที่นกฮูกสอน ซึ่งผู้รู้อย่างนกฮูกเข้าใจดีว่าการทีจะค้นพบตัวเองนั้นอาศัยเวลาและไม่ใช่เรื่องง่าย นกฮูกรู้ดีว่าหน้าที่ของผู้ชี้แนะอย่างเขาไม่ได้มีเพียงให้คำแนะนำแต่รวมไปถึงการให้กำลังใจปิงและเขาตัวเองต้องมีความอดทนด้วย

หลายสัปดาห์ผ่านไป นกฮูกสอนปิงในสิ่งที่เขารู้มารวมไปถึงความสำคัญของการเสี่ยง การวางแผนที่จะไม่นำไปสู่ความพลาดพลั้ง วิธีการลดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ฯลฯ นกฮูกอธิบายว่า "การที่จะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ในชีวิต เธอจะต้องเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีประสบการณ์ในการเสี่ยงเพราะความเสี่ยงเปลี่ยนโอกาสให้เป็นความเป็นจริง" นกฮูกยังสอนปิงให้เข้าใจถึงผลที่จะตามมาในการเสี่ยงในแต่ละช่วงของชีวิตอีกด้วย "การไตร่ตรองอย่างรอบคอบเป็นการลดความเสี่ยงในตัวไปแล้วครึ่งหนึ่ง" นกฮูกกล่าว

"เธอต้องทำความเข้าใจกับความเสี่ยง มองให้กระจ่างถึงอุปสรรคและความยากลำบากที่จะตามมา เธอจะต้องฝ่าฟันมันไปเพื่อความสำเร็จที่รออยู่ เตรียมแผนรองรับให้รอบคอบว่าหากเหตุการณ์ผันแปรไปจากที่เธอคาดหวังไว้ เธอจะทำอย่างไร มองซ้ายขวาก่อนก้าวกระโดด" "แต่หากเธอไม่ยอมเสี่ยงเลยในชีวิตนี้ นั่นกลับกลายเป็นการเสี่ยงที่ใหญ่หลวงในชีวิต" ปิงตั้งใจเรียนรู้อย่างเต็มที่ เขาคิดตามคำสอนอย่างพิจารณา ปิงเข้าใจว่าเพียงคนที่กล้าเสี่ยง จึงจะได้รับความสำเร็จ และบ่อยครั้งที่หนทางที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จคือหนทางที่ไม่ค่อยมีคนเดิน (เพราะมันเสี่ยง)

"ให้เปิดใจต้อนรับความเป็นไปได้ ให้รู้ว่าความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นมีวิธีป้องกันแก้ไขได้ แต่การที่ไม่ลงมือทำอะไรเลย เป็นเหมือนการสร้างกรงกักขังตัวเอง" "ให้จำไว้ว่าเธอจะเสียใจในสิ่งที่เธอไม่ได้ทำ มากกว่าสิ่งที่ทำแล้วได้ผลไม่ดี" "เธอต้องลงมือทำเพื่อที่จะเป็นในสิ่งที่เธออยากเป็น ความเสี่ยงเป็นตัวกระตุ้นให้เธอเปลี่ยนแปลงจากสภาพที่เธอเป็นอยู่ไปสู่สภาพที่เธออยากเป็น" "การที่เธอจะเติบใหญ่เธอต้องเสี่ยง ความล้มเหลวในการผลักตัวเองให้ลองเสี่ยง คือการปิดกั้นประสบการณ์ในชีวิตที่แท้จริง" ปิงสัญญากับนกฮูกว่าเขาจะไตรตรองผลที่จะได้จากการเสี่ยงและผลที่จะได้รับหากเขาไม่ลองเสี่ยงดูก่อนเสมอ และจะทำการเสี่ยงโดยมีการวางแผนอย่างรอบคอบให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา "ผมจะสร้างความมั่นใจในการเสี่ยงโดยการเริ่มต้นจากการเสี่ยงในเรื่องเล็กน้อยก่อน เมื่อทำได้และรู้สึกดีผมจึงจะทำการใหญ่"

"เพราะคุณสอนผมมาเยอะ ผมสัญญาว่าผมจะไม่คว้าน้ำเหลว" นกฮูกตอบกลับทันใด "ฉันก็สัญญาว่าเธอจะผิดหวัง บ่อยครั้งและน่าอนาถมากด้วย" ปิงมองผู้เฒ่าด้วยความฉงน "ความล้มเหลวในแต่ละครั้งจะทำให้เธอเจ็บปวด ขวัญเสีย ร้องไห้ และมันจะทำให้เธอเลิกล้มความตั้งใจจริงที่เคยมีมาแต่แรกเริ่ม นั่นคือความโหดร้ายของความล้มเหลว..แต่สิ่งที่โหดร้ายมากไปกว่าความโหดร้ายที่เกิดจากความล้มเหลวนั้น คือการที่เธอไม่เคยประสบกับความล้มเหลวเลย เพราะนั่นหมายถึงการที่เธอไม่เคยที่จะลองออกเดินทางไปสู่ความสำเร็จเลย" "ให้คิดเสียว่าความล้มเหลวคือครูสอน "ความล้มเหลวขัดเกลาจิตใจเหมือนน้ำที่หล่อเลี้ยงพืชพรรณ ความพลาดพลั้งสอนให้เราให้เกิดปัญญา ความรู้ ความเข้าใจโลกที่ดี และทำให้เราเติบใหญ่ขึ้น" "ที่สำคัญคือเธอไม่ควรปล่อยให้ความล้มเหลวปิดกั้นเธอจากสิ่งที่เธอต้องการ จากการใช้ชีวิตที่คุ้มค่า" "ความล้มเหลวอาจทำให้เธอเป็นผู้แพ้หรือเป็นผู้ชนะ นั่นก็แล้วแต่ว่าเธอจะเลือกมองมันอย่างไร"

"ผมไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ" ปิงกล่าวอย่างแข็งขัน

"แล้วเราก็จะได้รู้กัน" นกฮูกตอบพร้อมรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเอ็นดู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

2leep.com