แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเด็กน้อยก็ยังถือกล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีทองมาให้คุณพ่อ“กล่องนี้ของพ่อนะคะ” เด็กน้อยเอ่ยกับพ่ออย่างร่าเริงคุณพ่อรู้สึกละอายกับการกระทำของตนเองเมื่อคืนนี้ที่ออกจะรุนแรงเกินไปบ้างเขากล่าวขอบคุณลูกสาวเบา ๆ พร้อมกับค่อย ๆ แกะกล่องของขวัญอย่างระมัดระวังปรากฏว่าเป็นกล่องเปล่า …ไม่มีอะไรอยู่ข้างในเลยคุณพ่อของเด็กน้อยรู้สึกโกรธขึ้นมาอีก เขาตะโกนถามลูกสาวว่า“นี่ลูกไม่เคยรู้เหรอว่าเวลาจะให้กล่องของขวัญกับใคร …มันควรจะมีอะไรอยู่ในนั้นบ้างน่ะ”เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองคุณพ่อช้า ๆ เธอสะอึกสะอื้นตอบคุณพ่อของเธอ“แต่เมื่อคืนหนู… หนูใส่ของขวัญไว้ให้คุณพ่อแล้วนะคะ หนูหอมแก้มคุณพ่อใส่ไว้จนเต็มกล่องเลย”คุณพ่อรู้สึกตื้นตันขึ้นมาทันที เขายกตัวลูกสาวขึ้นมาอุ้มไว้แนบอก แล้วขอร้องให้เด็กน้อยให้อภัยที่เขาอารมณ์เสียไปบ้าง…ที่น่าเศร้าก็คือ หลังจากนั้นไม่นาน เด็กน้อยก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
ต่อมาอีกหลายปี ยังมีคนเห็นว่าคุณพ่อคนนี้ยังเก็บกล่องของขวัญสีทองนั้นไว้ที่หัวเตียงอยู่เสมอเมื่อใดที่เขารู้สึกท้อแท้หรือเศร้าใจ เขาจะหยิบกล่องสีทองขึ้นมาเปิด แล้วจินตนาการว่าเด็กน้อยได้กลับมาหอมแก้มเขาอีกครั้ง อาจเป็นเพราะเหตุนี้คุณพ่อจึงยังคงจดจำความรักของลูกสาวที่มีให้เขาอย่างมากมายอยู่เสมอมา…เหมือนกับว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดของลูกสาวที่เขาสามารถยึดถือเอาไว้ได้ ไม่ใช่กล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีทองหรือกล่องที่ทำจากทองคำแท้ใด ๆ ทั้งนั้นแต่เป็นความรักอันแสนจริงใจที่ลูกสาวของเขาได้ฝากเอาไว้จนเต็มกล่องนั่นต่างหาก.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น