ใครๆที่ฉันรู้จัก ต่างพากันว่าฉัน .. ค น ข ว า ง โ ล ก
อะไรที่เขาเห็นว่าดี .. ฉันว่าแย่
อะไรที่เขาเห็นอย่างหนึ่ง .. ฉันจะเห็นเป็นอีกอย่าง
พวกเขาถามฉันว่า ทำไมฉันจะต้องตรงข้ามไปเสียหมด
ฉันตอบว่าเปล่า ฉันไม่ได้พยายามจะตรงข้าม
ฉันไม่ได้พยายามจะแตกต่าง
เพียงแต่ฉัน .. ก็มีทางของฉัน
และเพียงแต่ทางของฉัน เผอิญไม่เหมือนคนส่วนใหญ่
ทำไมต้องพยายามจะแตกต่าง?
เพื่อให้กลายเป็น " ผู้ นำ ส มั ย " อย่างนั้นหรือ?
"ผู้นำสมัย" ไม่ว่าจะขยันสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างไร
เขาก็ยังคงเป็น " ผู้ ห นี ส มั ย " อยู่ด้วยเสมอ
เพราะยุคสมัยนั้นมีไว้สำหรับผู้ที่คอยก้าวตาม
ที่ฉันเรียกว่า .." ผู้ ต า ม ส มั ย "
เมื่อก้าวตามทัน ก็คงต้องหนีกันเรื่อยไปไม่สิ้นสุด
แล้วอะไร คือคำว่า " เ ป็ น ตั ว ข อ ง ตั ว เ อ ง " ?
เพียงแค่ไม่ต้องตามสมัย หรือหนีสมัย
แต่ดึงเอาส่วนที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองมาใช้
เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วมิใช่หรือ?
ทำไมพวกเขาถึงเห็นฉันเป็นแบบนั้น .. คนขวางโลก
ส่วนที่ฉันเห็นพ้องกับคนอื่นว่าดี ว่าสวย ว่าใช่ นั้นก็มี
เสียงของผู้คน .. นั่นคือ ก ร ะ แ ส
และฉันก็ไม่เคยกระโดดลงท่ามกลางมันแม้สักครั้ง
ฉันก็แค่ยืนอยู่ในพื้นที่เล็กๆของฉัน ณ จุดกึ่งกลางของวงกระแส
แ ล้ ว ฉั น ไ ป ข ว า ง ใ ค ร ?
ถ้าวาดเส้นทางของคนแต่ละคนบนโลก
ก็จะได้ภาพของโครงสร้างที่ซับซ้อนขนาดมหึมา
และในรายละเอียด ก็คือเส้นที่ลากผ่านตัดกันแทบทั้งสิ้น
ถ้ า บ อ ก ว่ า ฉั น ข ว า ง เ ธ อ . . เ ธ อ เ อ ง ก็ ข ว า ง ฉั น เ ช่ น กั น
ฉัน .. ไม่เคยขวางโลก
โลก .. ไม่เคยหยุดหมุนเพื่อใคร
แล้วเพราะเหตุใด .. ฉันถึงต้องเป็นอย่างที่คนอื่นต้องการ
ผิดไหม .. ที่ฉันเห็น ในสิ่งที่พวกเขาไม่เห็น
ผิ ด ไ ห ม . . กั บ สิ่ ง ที่ ฉั น คิ ด กั บ สิ่ ง ที่ ฉั น เ ป็ น กั บ สิ่ ง ที่ ต้ อ ง ก า ร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น