ผู้คนมากมายอยากรู้จักพระเจ้า และมีคนอีกมากมายที่ไม่เคยรู้จักพระเจ้า ต่างก็ตั้งคำถาม ถึงความเข้าใจนี้ พระเจ้ามีจริงอย่างไร แน่ใจได้อย่างไร ...แล้วเราผู้ที่ได้ชื่อว่ารู้จักพระเจ้า สามารถตอบ ได้อย่างมั่นใจหรือยัง ...อยากให้ทุกคนมีโอกาสแบ่งปัน ประสบการณ์ที่ทำให้เรามั่นใจ ถึงการมีอยู่จริง ให้กับคนอีกมากมายที่อยากจะรู้จักพระเจ้าในวันนี้
มีบางคนถามคำถามนี้กับตัวผม ในขณะที่เขามีประสบการณ์กับพระเจ้ามาแล้วเกือบ2ปี ผมอยากจะตอบคำถามนี้ให้เขาฟัง ...แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ตอบคำถามนี้หรือไม่ ที่ทำได้วันนี้คือ ตอบคำถามนี้ให้กับใครบางคน ที่อาจจะแวะเวียนเข้ามาอ่าน อยากรู้จักพระเจ้าหรือไม่อยากรู้จักก็ตาม ...และหวังว่าพวกเราทุกคนจะช่วยกันทำให้บทความนี้สมบูรณ์ขึ้น ด้วยประสบการณ์ และความเข้าใจส่วนตัวที่มีในการรู้จักพระเจ้ามาแบ่งปันกัน
ไม่ว่าคุณคิดอย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ ....ความจริง คือสิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
เริ่มต้นที่
สิ่งที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ว่าพระเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่ เราคงต้องเริ่มต้นเหมือนกับการรู้จักใครสักคน
- รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร
- นิสัย ลักษณะ วิธีคิด
เพื่อเราจะสังเกตได้ว่า คือพระเจ้า เมื่อมีโิอกาสได้พบ (มีประสบการณ์กับพระเจ้า)
หรือเราอาจจะพิสูจน์ การมีอยู่จริงของพระเจ้าแบบตรรกศาสตร์ คือเริ่มต้นที่ความจริง ความเข้าใจก็ได้
ทั้งการเรียนรู้ที่นำไปสู่ประสบการณ์ หรือการมีประสบการณ์ที่นำไปสู่การเรียนรู้ อาจจะเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นพร้อมกันก็ย่อมได้ แต่ให้สังเกตุให้ดีว่า เราต้องพร้อมที่จะรู้ พร้อมที่จะพิสูจน์ พร้อมที่จะศึกษา จะไม่มีประโยชน์ใดเลยที่เราอยากรู้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ แต่ไม่พร้อมที่จะพิสูจน์ การมีอยู่จริงนั้น
มีจริงแม้มองไม่เห็น
หลายสิ่งหลายอย่างมีอยู่จริงแม้เรามองไม่เห็น เช่นลม อากาศ กระแสไฟฟ้า คลื่นเสียง คลื่นวิทยุ เรามองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่เราสัมผ้สได้ และรับรู้ได้ไม่ยาก ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง
เราอาจจะมองไม่เห็นพระเจ้า แต่เราจะสัมผัสได้แน่นอนว่าพระองค์มีอยู่จริง เมื่อเรามีประสบการณ์กับพระเจ้า ผ่านคำอธิษฐาน ทุกครั้งที่เราอธิษฐาน พระเจ้าทรงฟัง และจะตอบคำอ้อนวอนของเรา ให้เรารู้ว่าพระองค์รักเรามากเพียงไร เราจะได้สัมผัสถึงความรักของพระเจ้า
อย่าจำกัดประสบการณ์ของตัวคุณเอง เพียงแค่การมองเห็นเท่านั้น
จิตใจของคุณเอง ...กำลังพูดอยู่
มนุษย์ ประกอบไปด้วย ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งแตกต่าง จากสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เรามีจิตวิญาณ มีความรู้สำนึกผิดชอบ อย่างที่ไม่มีในสิ่งอื่นใด ...เมื่อคุณทำผิด คุณจะรู้สึกได้ไม่ยาก ว่าสิ่งเหล่านั้นผิด ....การฆ่าคนตาย เป็นความผิด ที่ทุกคนก็รู้แม้ไม่มีบทบัญญัตติของกฏหมายก็ตาม คนป่าลึกที่สุดก็เข้าใจเรื่องนี้
ศาสนา จึงเกิดขึ้นมาพร้อมกับการแสวงหา ส่วนที่ขาดหายไปของจิตใจ หรือ ที่ใครหลายคนเรียกว่า เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ...เป็นส่วนหนึ่งของการแสวงหาของมนุษย์ ที่อยากจะรู้จักพระเจ้า
และเรื่องพระเจ้ายังเป็นเรื่องสามัญธรรมดาที่สุด ที่อยู่คู่กับมนุษย์มาโดยตลอด แม้คนป่าที่ไม่เคยพบใครมาก่อน อยู่ส่วนลึกที่สุดของป่า ในเทือกเขาที่ไม่มีใครเคยไปถึง ทั้งพวกเขาและก็พวกเรา ต่างก็รู้ดีแก่ใจว่า มีบางสิ่งอยู่สูงขึ้นไป บางสิ่งที่มีอำนาจและควบคุมทุกสิ่งอยู่ ...เกิดเป็นความเชื่อ เรื่องเทพเจ้า ผีสาง เทวดา ขึ้นมา
ทุกสรรพสิ่ง ก็กำลังบอกเรา
เพราะไม่มีอะไร เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ ใครเคยคิดว่า โลกอยู่ดีๆ ก็บังเอิญ หมุน 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี มีฤดูกาล มีน้ำทะเล มีฝนตก มีสิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องของความบังเอิญ เป็นวิวัฒนาการ ...ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน ไม่มีน้ำที่ระเหยขึ้นไปในอากาศ ในอุณหภูมิ และสภาวะที่เหมาะสมก็จะไม่มีฝน ไม่มีพืช สัตว์ก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีดิน ต้นไม้ก็ไม่มีที่ยึด ไม่มีวันและคืน โลกก็อยู่ไม่รอด ...ทุกอย่างบังเอิญกันมากเหลือเกิน ผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย ก็เกิดหายนะได้
ใครเคยเรียน ทฤษฏี บิ๊กแบงค์ บ้าง การกำเนิดของจักรวาล คุณคิดว่ามันเป็นความจริงมั๊ยที่ เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของกลุ่มก๊าซ ทำให้เกิดระบบสุริยะ เกิดดวงดาวมากมาย และบังเอิญมีโลก ที่อยู่ในภาวะที่เหมาะเจาะพอดี จึงเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้น
....ถ้าคุณเชื่อ เคยคิดมั๊ยว่า อะไรทำให้เกิดการระเบิด พลังมหาศาลมาจากไหน เอากฏง่ายๆ ทางฟิสิกส์มาอธิบายยังได้ ไม่ยากว่า วัตถุจะไม่เคลื่อนที่ถ้าไม่มีแรงมากระทำ F=ma ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมเคยเรียนสิ่งเหล่านี้แต่ไม่เคยสงสัย แรงที่มากพอจะระเบิดได้ทั้งจักรวาล มันแรงมาก มันมาจากไหน ไม่งั้นทุกอย่างน่าจะอยู่คงที่ไม่ระเบิด
...แต่พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอย่างเฉพาะเจาะจง ไม่มีสิ่งใดเกิดจากความบังเอิญ มิใช่ดินและน้ำ จะบังเอิญก่อตัวเป็นสิ่งมีชีวิตได้ โดยปราศจากผู้สร้าง มิเช่นนั้นแล้วเราก็เป็นเพียงดินที่ปราศจากจิตวิญาณ ไร้ความรู้สึก
ประสบการณ์
ประสบการณ์?เป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้เรา รู้จักพระเจ้า ...อย่าแปลกใจที่ทุกวันนี้ เราอาจจะไม่รู้จักพระเจ้า ความบาปทำให้เราห่างจากพระเจ้า ตั้งแต่มนุษย์คู่แรกทำบาป มนุษย์ก็ถูกแยกออกจากพระเจ้า มนุษย์เริ่มทำบาปเป็นแม้เราไม่เคยสอนกันเลย เด็กโกหกได้ตั้งแต่ยังเล็ก ไม่มีใครสักคนเดียวไม่เคยทำบาป
แต่พระเยซูได้มาตายเพื่อไถ่เราทั้งหลายออกจากความบาป ที่มีติดตัวมาเพื่อเราจะสามารถพบ และรู้จักพระเจ้าได้ ทุกวันนี้จึงเป็นโอกาสที่คุณ จะได้สัมผัส และเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่จริง และพร้อมที่จะมอบความรัก ให้กับผู้ที่อยากรู้จักพระเจ้าทุกคน ผ่านทางความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์
พระองค์ให้ทุกคนง่ายๆ เพียงแค่เชื่อ เราไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่าง ถึงจะมาหาพระองค์ได้ พระองค์ให้โอกาสทุกคน คนยากจน คนมั่งมี คนความรู้น้อย หรือคนความรู้มาก สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือความเชื่อ ...ไม่ใช่ความสามรถ หรือเงินทอง
ลองเริ่มต้นที่จะเชื่อ ว่าพระเจ้ารักคุณ อธิฐานกับพระองค์ ประสบการณ์ จะบอกเราเอง ว่าพระองค์มีอยู่จริง
สำหรับตัวผมเองเคยใช้เวลาพอสมควรทีเดียว ...จนได้รู้ว่า ความจริงคือสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้
• ถึงแม้เราไม่เชื่อพระเจ้า พระองค์ยังทรงเป็นความจริง ...ความจริงคือสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ...ไม่ว่าคุณรักพระเจ้าหรือไม่ จำไว้ว่าพระองค์รักคุณมาก ...ไม่ว่าคุณจะเชื่อเรื่องความรักหรือไม่ก็ตาม ความรักก็ยังคงมีจริง
มีบางคนถามคำถามนี้กับตัวผม ในขณะที่เขามีประสบการณ์กับพระเจ้ามาแล้วเกือบ2ปี ผมอยากจะตอบคำถามนี้ให้เขาฟัง ...แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ตอบคำถามนี้หรือไม่ ที่ทำได้วันนี้คือ ตอบคำถามนี้ให้กับใครบางคน ที่อาจจะแวะเวียนเข้ามาอ่าน อยากรู้จักพระเจ้าหรือไม่อยากรู้จักก็ตาม ...และหวังว่าพวกเราทุกคนจะช่วยกันทำให้บทความนี้สมบูรณ์ขึ้น ด้วยประสบการณ์ และความเข้าใจส่วนตัวที่มีในการรู้จักพระเจ้ามาแบ่งปันกัน
ไม่ว่าคุณคิดอย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ ....ความจริง คือสิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
เริ่มต้นที่
สิ่งที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ว่าพระเจ้ามีอยู่จริงหรือไม่ เราคงต้องเริ่มต้นเหมือนกับการรู้จักใครสักคน
- รู้ว่าเขาเป็นอย่างไร
- นิสัย ลักษณะ วิธีคิด
เพื่อเราจะสังเกตได้ว่า คือพระเจ้า เมื่อมีโิอกาสได้พบ (มีประสบการณ์กับพระเจ้า)
หรือเราอาจจะพิสูจน์ การมีอยู่จริงของพระเจ้าแบบตรรกศาสตร์ คือเริ่มต้นที่ความจริง ความเข้าใจก็ได้
ทั้งการเรียนรู้ที่นำไปสู่ประสบการณ์ หรือการมีประสบการณ์ที่นำไปสู่การเรียนรู้ อาจจะเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นพร้อมกันก็ย่อมได้ แต่ให้สังเกตุให้ดีว่า เราต้องพร้อมที่จะรู้ พร้อมที่จะพิสูจน์ พร้อมที่จะศึกษา จะไม่มีประโยชน์ใดเลยที่เราอยากรู้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ แต่ไม่พร้อมที่จะพิสูจน์ การมีอยู่จริงนั้น
มีจริงแม้มองไม่เห็น
หลายสิ่งหลายอย่างมีอยู่จริงแม้เรามองไม่เห็น เช่นลม อากาศ กระแสไฟฟ้า คลื่นเสียง คลื่นวิทยุ เรามองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่เราสัมผ้สได้ และรับรู้ได้ไม่ยาก ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง
เราอาจจะมองไม่เห็นพระเจ้า แต่เราจะสัมผัสได้แน่นอนว่าพระองค์มีอยู่จริง เมื่อเรามีประสบการณ์กับพระเจ้า ผ่านคำอธิษฐาน ทุกครั้งที่เราอธิษฐาน พระเจ้าทรงฟัง และจะตอบคำอ้อนวอนของเรา ให้เรารู้ว่าพระองค์รักเรามากเพียงไร เราจะได้สัมผัสถึงความรักของพระเจ้า
อย่าจำกัดประสบการณ์ของตัวคุณเอง เพียงแค่การมองเห็นเท่านั้น
จิตใจของคุณเอง ...กำลังพูดอยู่
มนุษย์ ประกอบไปด้วย ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งแตกต่าง จากสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เรามีจิตวิญาณ มีความรู้สำนึกผิดชอบ อย่างที่ไม่มีในสิ่งอื่นใด ...เมื่อคุณทำผิด คุณจะรู้สึกได้ไม่ยาก ว่าสิ่งเหล่านั้นผิด ....การฆ่าคนตาย เป็นความผิด ที่ทุกคนก็รู้แม้ไม่มีบทบัญญัตติของกฏหมายก็ตาม คนป่าลึกที่สุดก็เข้าใจเรื่องนี้
ศาสนา จึงเกิดขึ้นมาพร้อมกับการแสวงหา ส่วนที่ขาดหายไปของจิตใจ หรือ ที่ใครหลายคนเรียกว่า เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ...เป็นส่วนหนึ่งของการแสวงหาของมนุษย์ ที่อยากจะรู้จักพระเจ้า
และเรื่องพระเจ้ายังเป็นเรื่องสามัญธรรมดาที่สุด ที่อยู่คู่กับมนุษย์มาโดยตลอด แม้คนป่าที่ไม่เคยพบใครมาก่อน อยู่ส่วนลึกที่สุดของป่า ในเทือกเขาที่ไม่มีใครเคยไปถึง ทั้งพวกเขาและก็พวกเรา ต่างก็รู้ดีแก่ใจว่า มีบางสิ่งอยู่สูงขึ้นไป บางสิ่งที่มีอำนาจและควบคุมทุกสิ่งอยู่ ...เกิดเป็นความเชื่อ เรื่องเทพเจ้า ผีสาง เทวดา ขึ้นมา
ทุกสรรพสิ่ง ก็กำลังบอกเรา
เพราะไม่มีอะไร เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ ใครเคยคิดว่า โลกอยู่ดีๆ ก็บังเอิญ หมุน 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี มีฤดูกาล มีน้ำทะเล มีฝนตก มีสิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องของความบังเอิญ เป็นวิวัฒนาการ ...ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน ไม่มีน้ำที่ระเหยขึ้นไปในอากาศ ในอุณหภูมิ และสภาวะที่เหมาะสมก็จะไม่มีฝน ไม่มีพืช สัตว์ก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีดิน ต้นไม้ก็ไม่มีที่ยึด ไม่มีวันและคืน โลกก็อยู่ไม่รอด ...ทุกอย่างบังเอิญกันมากเหลือเกิน ผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย ก็เกิดหายนะได้
ใครเคยเรียน ทฤษฏี บิ๊กแบงค์ บ้าง การกำเนิดของจักรวาล คุณคิดว่ามันเป็นความจริงมั๊ยที่ เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ของกลุ่มก๊าซ ทำให้เกิดระบบสุริยะ เกิดดวงดาวมากมาย และบังเอิญมีโลก ที่อยู่ในภาวะที่เหมาะเจาะพอดี จึงเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้น
....ถ้าคุณเชื่อ เคยคิดมั๊ยว่า อะไรทำให้เกิดการระเบิด พลังมหาศาลมาจากไหน เอากฏง่ายๆ ทางฟิสิกส์มาอธิบายยังได้ ไม่ยากว่า วัตถุจะไม่เคลื่อนที่ถ้าไม่มีแรงมากระทำ F=ma ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมเคยเรียนสิ่งเหล่านี้แต่ไม่เคยสงสัย แรงที่มากพอจะระเบิดได้ทั้งจักรวาล มันแรงมาก มันมาจากไหน ไม่งั้นทุกอย่างน่าจะอยู่คงที่ไม่ระเบิด
...แต่พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอย่างเฉพาะเจาะจง ไม่มีสิ่งใดเกิดจากความบังเอิญ มิใช่ดินและน้ำ จะบังเอิญก่อตัวเป็นสิ่งมีชีวิตได้ โดยปราศจากผู้สร้าง มิเช่นนั้นแล้วเราก็เป็นเพียงดินที่ปราศจากจิตวิญาณ ไร้ความรู้สึก
ประสบการณ์
ประสบการณ์?เป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้เรา รู้จักพระเจ้า ...อย่าแปลกใจที่ทุกวันนี้ เราอาจจะไม่รู้จักพระเจ้า ความบาปทำให้เราห่างจากพระเจ้า ตั้งแต่มนุษย์คู่แรกทำบาป มนุษย์ก็ถูกแยกออกจากพระเจ้า มนุษย์เริ่มทำบาปเป็นแม้เราไม่เคยสอนกันเลย เด็กโกหกได้ตั้งแต่ยังเล็ก ไม่มีใครสักคนเดียวไม่เคยทำบาป
แต่พระเยซูได้มาตายเพื่อไถ่เราทั้งหลายออกจากความบาป ที่มีติดตัวมาเพื่อเราจะสามารถพบ และรู้จักพระเจ้าได้ ทุกวันนี้จึงเป็นโอกาสที่คุณ จะได้สัมผัส และเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่จริง และพร้อมที่จะมอบความรัก ให้กับผู้ที่อยากรู้จักพระเจ้าทุกคน ผ่านทางความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์
พระองค์ให้ทุกคนง่ายๆ เพียงแค่เชื่อ เราไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่าง ถึงจะมาหาพระองค์ได้ พระองค์ให้โอกาสทุกคน คนยากจน คนมั่งมี คนความรู้น้อย หรือคนความรู้มาก สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือความเชื่อ ...ไม่ใช่ความสามรถ หรือเงินทอง
ลองเริ่มต้นที่จะเชื่อ ว่าพระเจ้ารักคุณ อธิฐานกับพระองค์ ประสบการณ์ จะบอกเราเอง ว่าพระองค์มีอยู่จริง
สำหรับตัวผมเองเคยใช้เวลาพอสมควรทีเดียว ...จนได้รู้ว่า ความจริงคือสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้
• ถึงแม้เราไม่เชื่อพระเจ้า พระองค์ยังทรงเป็นความจริง ...ความจริงคือสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ...ไม่ว่าคุณรักพระเจ้าหรือไม่ จำไว้ว่าพระองค์รักคุณมาก ...ไม่ว่าคุณจะเชื่อเรื่องความรักหรือไม่ก็ตาม ความรักก็ยังคงมีจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น