skip to main |
skip to sidebar
กระถางต้นไม้
กระถางคว่ำ ดินหกเรี่ย กลุ่มต้นไม้ล้มลุกใบเขียวเข้ม ลำต้นอวบ ก็พากันหลุดร่วง ถอดถอนรากออกจากกระถาง ไปกระจัดกระจายอยู่บนหลังคากระเบื้องสีนวลปูน ฉันพยายามปีนออกไปยืนที่ขอบหน้าต่างด้านนอก เพื่อเก็บทุกอย่างให้เข้าที่ แต่ก็ได้คืนมาเพียงกระถางสีอิฐแห้งกับเศษดินอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันเป็นพันธุ์ไม้ดอกที่ฉันหอบหิ้วมาจากจังหวัดหนึ่งที่อยู่แสนไกล ให้น้ำให้ปุ๋ยประคบประหงมอยู่ร่วมสองเดือน แต่ไม่เคยออกดอกงาม เพื่อนๆ มักบอกว่า โฉลกฉันไม่ตรงกับต้นไม้ แค่พลูด่างที่ปลูกเลี้ยงได้ง่ายดาย ก็ยังเลี้ยงได้ไม่งามเหมือนใครเขา แต่ฉันก็ไม่เคยหมดความพยายาม แม้ว่าสถานที่และความเป็นอยู่นั้น ไม่เหมาะกับการปลูกต้นไม้เอาเสียเลย ด้วยเหตุนี้เองทีทำให้ฉันต้องสูญเสียต้นไม้ที่ใส่กระถางแขวนห้อยไว้กับหน้าต่างนั้นไป แต่ก็ยังดี ที่ฉันยังเหลือต้นไม้อีกสองกระถาง แม้มันจะเป็นไม้พันธุ์พื้นๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ความสมบูรณ์ของมัน ก็ทำให้ฉันภาคภูมิใจกับความเอาใจใส่ของตัวเองได้พอสมควร ทุกเช้าเย็นที่รดน้ำต้นไม้ข้างหน้าต่างก็ไม่ได้สังเกตถึงน้ำที่ไหลราดไปบนหลังคาว่า ได้พัดพาดินและกลุ่มต้นไม้ที่หกคว่ำในวันนั้นให้ไปกองรวมกันอยู่บนรางน้ำฝนจนเกลี้ยงหลังคาตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ฉันเห็นดอกไม้สีเหลืองบานอยู่อย่างสว่างไสวท่ามกลางแสงแดดอ่อน ฉันรู้สึกถึงกลีบดอกอิสระ ก้านช่อทะนง แข็งแรง มันอยู่อย่างกล้าหาญเหลือเกิน เอื้อมไม่ถึง สัมผัสไม่ได้ แต่อิริยาบทของดอกไม้ก็ประทับใจไม่น้อยกว่าที่เคยประทับใจ ฉันรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษออกไป …บางที ความรักที่เรามีต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีมากจนเกินไป แหนหวงเกินไป ทะนุถนอมห่วงใยเกินควร อุปการะเกินความจำเป็น แทนที่จะเร่งรัดให้ความหวังมาถึงก่อนกำหนดอย่างใจ… ตรงกันข้ามมันอาจกลับกลายเป็นตัวการที่ทำให้ชักช้าร่ำไรไปเสียอีก ความรัก ความห่วงใย แม้จริงใจจริงแท้ มันก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีไปทุกเวลา เราอาจต้องสร้างขอบเขตของมันไว้บ้าง คงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่ต้องการเติบโตภายใต้เงื้อมเงาแห่งการอุปการะของใครไปทุกอย่าง กับชีวิตอิสระ แม้แดดจะแรงไปบ้าง น้ำจะน้อยไปนิด ปุ๋ยจะขาดแคลนไปหน่อย แต่อย่างน้อย ก็ได้ชื่นชมตัวเอง ท่ามกลางความหมายหมื่นพันประการของความรักส่วนหนึ่งคงหมายถึงการอยู่ไกลๆ เพื่อให้อีกฝ่ายมีโอกาสเติบโตด้วยตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น